by

 เจ้าอาวาสวัดดังโคราชยันขอให้เห็นใจพระ ชี้ทุกอย่างมี คชจ. พระก็ต้องใช้เงิน ด้านญาติโยมเผยทำบุญมากน้อยตามศรัทธาพระจะมาเรียกร้องไม่เหมาะ ขณะที่เจ้าคณะจังหวัดตักเตือนพระทำตัวไม่เหมาะ ฝากพระทุกรูปเล่นโซเชียลให้ระวังโพสต์ข้อความไม่เหมาะทำพุทธศาสนาเสื่อมเสีย

วันนี้ (21 ม.ค.)  พระครูสุนทรปัญญาพิมล อายุ 61ปี 40 พรรษา เจ้าคณะตำบลหนองตะไก้ และเจ้าอาวาสวัดหนองตะไก้  อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงกรณีโลกออนไลน์มีการวิพากษ์วิจารณ์ ที่มีพระรูปหนึ่งโพสต์ข้อความ ระบุว่า  “12/1/63 นิมนต์พระมาเทศน์ถวายรูปละ 4 พัน 5 พัน กล้าให้ ลิเกมาเล่นราคา 6 หมื่น กล้าให้ บัดเอาลูกมาบวชถวายพระคู่สวด 600 บาท ยังกล้าถวายหนอ นี่ก็บวชหน้าไฟ 2 ร้อยบาท ยังกล้าถวายอยู่หนอ คุณโยมเอ๋ย แบบนี้ใครมาขอบวชหน้าไฟ บวชหน้าอะไรก็แล้วแต่ ทีหน้าทีหลัง ไม่ต้องจัดซองมาถวายปัจจัยอะไรก็ได้ดอกโยมเอ๋ย ก็จะสงเคราะห์ให้โยมอยู่พระอุปัชฌาย์เป็นกันได้ง่าย ๆ หรือ อย่าทำเป็นเล่นไป กว่าจะอบรมสอบผ่านได้มาไม่ได้ง่ายดอก ถ้างั้นพระทุกรูปได้เป็นพระอุปัชฌาย์กันหมดแล้ว เดี๋ยวจะบวชให้ฟรี ๆ ไปเลย เอาแค่ข้าว น้ำ ภัตตาหารเช้า-เพล มาถวายเป็นเครื่องบูชา อาตมาคิดว่าอยู่ได้สบายเลยหนาโยมเอ๋ย”

พระครูสุนทรปัญญาพิมล   กล่าวว่า ยอมรับว่าเป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าวเอง ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563 ที่ผ่านมาได้มีการจัดงานบวชหน้าไฟให้กับสามเณร หลังจากนั้นได้มีญาติโยมถวายซองให้กับเจ้าอาวาสซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ จำนวน 200 บาท ซี่งจำนวนเงินดังกล่าวที่ญาติโยมถวายเพื่อเป็นปัจจัย ถือว่าไม่ให้เกียรติพระอุปัชฌาย์หรือเจ้าอาวาส เพราะเจ้าของงานนั้นก็มีฐานะดี หากเป็นคนที่ยากจนไม่ถวายปัจจัยก็จะไม่ตำหนิอะไรเลย

“คนทั่วไปไม่รู้หรอกว่าพระก็ต้องใช้เงินเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมันรถเวลาออกไปรับกิจนิมนต์ ค่าแรงงานคนมาตัดหญ้าที่วัด ค่าซ่อมบำรุงวัด และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วพระก็ไม่อยากได้เงิน หรอก ส่วนคนที่วิพากษ์วิจารณ์นั้นอยากให้กลับไปย้อนคิดในมุมกลับกัน ว่าโลกทุกวันนี้อะไรก็เป็นค่าใช้จ่ายไปหมด จึงอยากให้ญาติโยมได้เข้าใจถึงเหตุผลนี้ด้วยสาเหตุที่โพสต์นั้นต้องการระบายออกมาเพียงเท่านั้นไม่ได้มีความหมายจะต่อว่าเจ้าภาพงานแต่อย่างใดแต่อยากให้เห็นใจพระบ้างเพราะกว่าได้เป็นพระอุปัชฌาย์ เป็นเจ้าอาวาสก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเช่นกัน”  เจ้าคณะตำบลหนองตะไก้ กล่าว

ด้านนางพิศ ดาจันทร์พันธ์ อายุ 65 ปี ชาวบ้านกนองตะไก้  กล่าวว่า เพิ่งทราบข่าวจากหลานชายเล่าให้ฟัง ว่าเจ้าอาวาสบ่นตัดพ้อเรื่องเงินใส่ซองจำนวน 200 บาท หลังจากไปบวชหน้าไฟให้กับเณร ซึ่งตนในฐานะชาวบ้านมองว่า ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของหลวงพ่อที่มีการโพสต์ออกไปจนโลกโซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานาทำให้วัดเสื่อมเสีย ในแง่ลบ ซึ่งคนก็มีทั้งคนรวยและคนจนเวลาใส่ซองช่วยพระในการทำบุญก็แล้วแต่กำลังศรัทธาของญาติโยมที่จะไปถวายเท่าไหร่ ทางพระจะมาบอกว่าให้ให้น้อยหรือใส่มากไม่ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้าภาพงาน เข้าใจว่าที่วัดก็มีค่าใช้จ่าย แต่ทางพระไม่สมควรที่จะมาโพสต์แบบนี้ ปกติเจ้าอาวาสรูปนี้เป็นนิสัยดี เป็นพระนักพัฒนา ไม่เคยมีเรื่องกับชาวบ้าน แต่การกระทำดังกล่าวตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง

  ขณะพระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา  กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า  ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งการโพสต์ลักษณะนี้ไม่ถือว่าผิดวินัย เพราะไม่มีบทบัญญัติวินัยใดๆ เขียนไว้ เพียงแต่ว่าจะเป็นการไม่เหมาะสม ซึ่งถือว่าเป็นโลกวัชชะ หรือโลกติเตียน ซึ่งตนเองก็ได้แจ้งไปยังเจ้าคณะอำเภอหนองบุญมาก ให้เรียกพระรูปดังกล่าวมาตักเตือน เพราะถือว่าเป็นถึงระดับพระอุปัชฌาย์ และเจ้าคณะตำบลด้วย พร้อมกับฝากเตือนถึงพระสงฆ์ทุกรูปที่เล่นโซเชียลให้ระมัดระวังการโพสต์ข้อความต่างๆ ที่ไม่เหมาะสมซึ่งจะส่งผลเสียต่อพระพุทธศาสนาได้