27 April 2024


จนท.เข้าตรวจสอบซากฟอสซิลช้างโบราณหลายล้านปีในกรุพระดังครบุรี ประสานกรมทรัพฯ เก็บรักษาอย่างถูกต้อง(มีคลิป)

Post on: Feb 6, 2020
เปิดอ่าน: 939 ครั้ง

 

อำเภอครบุรี ตรวจสอบซากฟอสซิลช้างโบราณหลายล้านปี ในกรุพระดังหลังมรณภาพ ประสานกรมทรัพยากรณีวางแผนเก็บรักษาอย่างถูกต้อง

วันนี้( 5 ก.พ.63 )นายรัตนภูมินทร์ ชะม้ายกลาง ปลัดอำเภอครบุรี พร้อมด้วย นายพิชัย พิทยาพรพิพัฒน์ ผู้ใหญ่บ้านหนองโบสถ์ หมู่ที่ 8 ร่วมกันตรวจสอบตู้เซฟภายในที่พักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต ซึ่งตั้งอยู่ภายในบ้านหนองโบสถ์ หมู่ที่ 16 ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา หลังจากมีการค้นพบซากฟอสซิลช้างดึกดำบรรพ์ อายุหลายล้านปีจำนวนมาก อยู่ภายในตู้เซฟของ พระดำรง โชติมันโต พระผู้ดูแลสำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า พระอาจารย์บง   ซึ่งได้ละสังขารไปเมื่อวันที่ 22 ม.ค.63 ด้วยโรคมะเร็ง   และได้ทำพิธีฌาปนกิจเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อทำรายการจัดเก็บรักษาซากดึกดำบรรพ์เหล่านี้ให้อยู่อย่างปลอดภัย  โดยขณะนี้ทางอำเภอครบุรี ได้ทำหนังสือรายงานเรื่องนี้ไปยังทางจังหวัดนครราชสีมา  เพื่อให้ประสานไปยังสำนักคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ กรมทรัพยากรธรณี เพื่อให้เข้ามาร่วมตรวจสอบ และวางแผนในการจัดเก็บอย่างถูกต้องต่อไป

นายรัตนภูมินทร์ ปลัดอำเภอครบุรี เปิดเผยว่า จากข้อมูลของทางกรมทรัพยากรธรณีวิทยา ทราบว่า พระดำรง โชติมันโต ได้ส่งเรื่องขอทำการตรวจสอบและครอบครองซากดึกดำบรรพ์ ไปยังทางกรมทรัพยากรธรณีจำนวนประมาณ 500 ชิ้น แต่จนถึงขณะนี้พบมีหลักฐานยืนยันผลการตรวจสอบและครอบครองซากดึกดำบรรพ์ที่อยู่ภายในที่พักสงฆ์แห่งนี้จำนวน 40 รายการ ซึ่งหลังจากนี้จะได้ส่งรายงานไปยังทางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้ประสานไปทางกรมทรัพยากรธรณีวิทยา ให้ส่งผู้เชี่ยวชาญลงมาตรวจสอบ พร้อมกับเจ้าหน้าที่อำเภอและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และวางแผนการเก็บรักษาอย่างถูกต้องต่อไป

สำหรับชิ้นส่วนซากดึกดำบรรพ์ที่พบดังกล่าวและมีหลักฐานยืนยันผลการตรวจสอบของกรมทรัพยากรธรณี มีทั้งสิ้นจำนวน 40 ชิ้น เป็นชิ้นส่วนช้างโบราณจำพวก สเตโกดอน ( Stegodon)  และ กอมโฟทีเรียม (Gomphotherium) รวม 23 ชิ้น ส่วนที่เหลือเป็นชิ้นส่วนตะโขง เก้งและสัตว์กีบโบราณ  ทางนายพิชัย พิทยาพรพิพัฒน์  ผู้ใหญ่บ้าน จึงรายงานเรื่องนี้ไปยังทางอำเภอครบุรีได้รับทราบและทำการปิดเซฟไว้ในสภาพเดิมเพื่อไม่ให้ซากดึกดำบรรพ์ดังกล่าวสูญหายไปก่อนที่จะมีการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ

นอกจากนี้จากการตรวจสอบภายในวัดยังพบวัตถุที่ลักษณะคล้ายงาช้างโบราณสีดำความยาวกว่า 2 เมตร อีก 3 คู่  โดยตั้งอยู่หน้าพระประธานภายในที่พักสงฆ์ 2 คู่ และวางอยู่ภายในบริเวณวัดอีก 1 คู่ แต่ไม่มีหลักฐานเอกสารใดๆที่ระบุถึงวัตถุคล้ายงาช้างทั้งหมด  รวมถึงหินสีเขียวลักษณะคล้ายหินหยกอีกจำนวนหนึ่งด้วย