ส่องทุเรียนสวนสุดท้ายของปากช่องโคราช ชูรสชาดที่เป็นเอกลักษณ์ “เนื้อแห้ง ละมุนลิ้น กลิ่นไม่แรง” ด้านเกษตรจังหวัดเผยทุเรียนโคราชปีนี้ให้ผลิตกว่า 5,000 ไร่ สร้างรายได้เข้าจังหวัดกว่า 500 ล้านบาท คาดอีก 4 ปีทุเรียนโคราชสดใสพร้อมส่งออกตลาดต่างประเทศ ชูปากช่องแหล่งผลิตทุเรียนคุณภาพโคราช
วันนี้ (8 ส.ค.) นางน้ำเงิน ยศสูงเนิน นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพันการเกษตร สำนักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมา ได้นำเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนเข้าตรวจเยี่ยมชมสวนทุเรียนสวนสุดท้ายของอำเภอปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมเปิดเผยว่า จังหวัดนครราชสีมามีพื้นที่ปลูกทุเรียนอยู่ประมาณ 4-5 อำเภอ จะมี ปากช่อง เสิงสาง ครบุรี และ หนองบุญมาก เป็นเส้นทางทุเรียน ปีนี้ทุเรียนให้ผลผลิตแล้วประมาณ 5,000 ไร่จุดใหญ่อยู่ที่ อ.ปากช่อง ประมาณ 2,000 ไร่ ที่หนองบุญมาก ครบุรี เสิงสาง ประมาณ 3,000 ไร่ แต่ละพื้นที่ได้จัดมีการจัดงานกระตุ้นตลาดทุเรียนในทุกพื้นที่ คาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับจังหวัดนครราชสีมา ประมาณ 500 ล้านบาท ขณะนี้เป็นช่วงปลายฤดูแล้ว ซี่งสำนักงานเกษตรจังหวัดได้มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ปลูกทุกเรียน เป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทุเรียนโดยการทำแปลงใหญ่ทุเรียน โดยสนับสนุนปัจจัยต่างๆ และภาคเอกชนหรือผู้ประกอบการทำการขายผ่านช่องทางออนไลน์ และจองที่หน้าสวน ก็จะทำให้การปลูกทุเรียนในจังหวัดนครราชสีมาขยายผลออกไป โดยคาดว่า 2-3 ปีนี้ผู้บริโภคจะได้รับประทานทุเรียนมากขึ้นอีก แต่ปีนี้อาจจะยังออกน้อยอยู่ ปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มจำนวนขึ้น เพราะจำนวนการปลูกและอายุก็จะครบรอบการออกผลผลิต คาดว่า 4-5 ปีนี้ทุเรียนปากช่องจะมีผลผลิตออกมามากเลย
สำหรับความโดดเด่นของทุเรียนปากช่อง คือ เนื้อแห้ง เนียน ละมุนลิ้น กลิ่นไม่แรง รสชาติคล้ายกับทุเรียนภูเขาไฟ จ.ศรีสะเกษ เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค และที่ อ.ปากช่อง ทุเรียนยังได้รับรองการเป็น GI หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ทำให้การยกระดับของทุเรียนเป็นที่รู้จักระดับประเทศมากขึ้น คาดว่า อีก 2-3 ปีความต้องการจะส่งถึงผู้บริโภค ปีนี้ผู้ผลิตยังไม่มีทุเรียนเพียงพอให้จะจำหน่าย ต้องมาสั่งจองกันนานเป็นปี
“อำเภอปากช่องโดยสำนักงานเกษตรอำเภอปากช่องจะรวบรวมผู้ประกอบการตั้งเป็นสมาคมผู้ส่งออกทุเรียนขึ้น โดยร่วมกับผู้ประกอบการทั่วประเทศ ซึ่ง อ.ปากช่องจะได้เปรียบในเรื่องของภาคเอกชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาให้การอบรม และศึกษาดูงาน คาดว่า3-4 ปีนี้จะเห็นทุเรียนที่โคราชส่งออกต่างประเทศด้วย ตอนนี้ตลาดต่างๆ ประเทศโดยเฉพาะจีนเริ่มเข้ามาแล้ว” นางน้ำเงิน กล่าว
นางน้ำเงิน กล่าวว่า ตอนนี้ทุเรียนถือเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่สำหรับเกษตรกรในจังหวัดนครราชสีมานอกจากการทำพืชไร่ ตอนนี้หลายพื้นที่ก็เริ่มนำทุเรียนเข้ามาปลูกแซมพืชชนิดอื่นๆ และเอาจริงเอาจังกับการทำสวนทุเรียนเนื่องจากเห็นรายได้ที่เกิดขึ้นและลักษณะภูมิประเทศยังเอื้อต่อการปลูกทุเรียนที่ให้ผลผลิตที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง คาดว่า 2-3 ปีนี้ทุเรียนจะทำรายได้ให้กับโคราชถึงปีละ 1,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน
ด้านนายบุญธรรม โสดานิล เกษตรกรวัย 60 ปีเจ้าของสวนทุเรียนแม่บานเย็น ม.2 ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ใช้พื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดเพียง 2 ไร่ ปลูกทุเรียน 100 ต้น สร้างรายได้ปีละกว่า 500,000บาท ได้นำชมสวนทุเรียนซึ่งเหลือผลผลิตในสวนเพียงไม่กี่ต้น โดยนายบุญธรรม บอกว่า จากความชอบกินทุเรียนของภรรยาและชอบปลูกต้นไม้ ตนจึงใช้พื้นที่หลังบ้านที่มีเพียง 2 ไร่มาปลูกทุเรียนหลายสายพันธุ์ แต่ที่ออกผลผลิตแล้วมี 6 สายพันธุ์ ทั้งกระจิบ ก้านยาว หลงลับแล หลินลับแล นกจิบ และหมอนทองเมื่อ 10 ปีก่อน โดยดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ทำสวนให้สะอาด ไม่ใช้สารเคมี บำรุงรักษาตามหลักการที่เจ้าหน้าที่เกษตรแนะนำซึ่งได้มาตรฐาน GAP และ GIโดยให้ผลผลิตปีละ 3 ตัน ทุเรียนต้นหนึ่งสามารถให้ผลผลิตได้มากสุดที่เคยทำได้ประมาณ70-80 ลูกต้นหนึ่งทำรายได้สูงประมาณ 20,000-30,000 บาท ลูกค้าส่วนใหญ่จองข้ามปี ตลาดหลักคือขายหน้าสวนก็ไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า โดยทุเรียนจะออกผลผลิตและตัดได้ตั้งแต่เดือน พ.ค.- ต้นเดือน ส.ค. โดยสวนทุเรียนแม่บานเย็นจะเน้นทุเรียนแก่จัดถึงจะตัดขาย
ด้านนางสาวดวงใจ พุทธศัยยา อายุ 51 ปี เจ้าของสวนทุเรียนถ้ำค้างคาว ตั้งอยู่หมู่ 2 ต.วังกระทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จากพนักงานตลาดหลักทรัพย์ผันตัวมาเป็นเกษตรกร เปิดเผยว่า จากพื้นที่ปลูกอ้อยและยางพาราของครอบครัวตนเองได้ปรับมาปลูกทุเรียนจำนวน 62 ไร่ทุกสายพันธุ์รวมประมาณ 3,000 ต้น ส่วนใหญ่เป็นทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ขณะนี้ให้ผลผลิตแล้วประมาณ 10 ไร่ หรือ 100 ต้น สร้างรายได้กว่า 100,000 บาท อีก 4 ปีข้างหน้าทุเรียนจะให้ผลผลิตคาดว่าอย่างต่ำ 100 ตัน สำหรับทุเรียนสวนถ้ำค้างคาวรสชาดจะเข้มข้นหรือเฉียบกว่าสวนอื่นๆ ในอ.ปากช่องซึ่งเราเป็นทุเรียนที่ได้มาตรฐาน GAP และ GI แล้ว นอกจากนี้เรายังมีสวนเงาะ มังคุด ลองกอง อโวคาโด ที่ปลูกไว้ให้กับลูกค้าที่เข้ามาชมสวนทุเรียนได้ลิ้มรสผลไม้ชนิดอื่นๆ ด้วย
สำหรับทุเรียนของสวนถ้ำค้างคาว จะใช้ทั้งอินทรีย์และเคมีผสมผสานกัน หากผลผลิตออกทั้ง 3,000 ต้นจะมีการกระจายทุเรียนไปตามตลาดต่างๆ โดย 80% จะส่งให้กับล้งที่เมืองจันทบุรีเพื่อกระจายไปทั่วประเทศและส่งออก ส่วนอีกประมาณ 20% จะคัดเกรดพรีเมี่ยมขายในพื้นที่หรือหน้าสวน และเราจะทำเป็นที่นี่จุดชมวิวถ้ำค้างคาวซี่งมีค้างคาวออกบินออกมาเป็นล้าน ๆตัวและที่นี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยสำคัญของอำเภอปากช่อง โดยจะทำเป็นเกษตรเชิงท่องเที่ยว ส่วนราคาขายหน้าสวนปีนี้อยู่ที่ 180บาท/ กก. มีทุเรียนไม่พอขาย อย่างไรก็ตามฝากเชิญชวนผู้บริโภคให้หันมาบริโภคทุเรียนปากช่องรับรองไม่ผิดหวังกับความอร่อยอย่างแน่นอน
