ผู้ตรวจการแผ่นดินลุยโคราช เร่งยุติปมปัญหาพิพาทระหว่างชาวบ้านกับ มหาลัยชื่อดัง ในการอ้างสิทธิ์ในการใช้ที่ดิน 800 ไร่
วันนี้ (15 มี.ค.) พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยนายปรีดา เวทยาวงศ์ รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะ ลงพื้นที่ร่วมกับนายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ตัวแทน กรมป่าไม้ สำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 จังหวัดนครราชสีมา สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดนครราชสีมา เทศบาลตำบลสุรนารี เร่งแก้ปัญหากรณีการใช้ประโยชน์ในที่ดินของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กว่า 800 ไร่ ซึ่งเป็นข้อพิพาทระหว่างชาวบ้านกว่าร้อยรายในพื้นที่กับมหาวิทยาลัยฯ ยืดเยื้อยาวนานเกือบ 30 ปี โดยก่อนเดินทางลงพื้นที่ได้มีหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเบื้องต้นที่ห้องประชุมท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมาก่อน
พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากที่ได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีข้อพิพาทในการใช้ประโยชน์ที่ดินของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ซึ่งปัญหาดังกล่าวสืบเนื่องมาจากเมื่อปี 2532 กรมป่าไม้ได้อนุญาตให้ทบวงมหาวิทยาลัยใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยบ้านยาง เนื้อที่ 6,911 ไร่ 3 งาน 64 ตารางวา ตั้งอยู่ในตำบลไชยมงคล และตำบลสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อจัดตั้งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี แต่มีพื้นที่บางส่วนที่กรมป่าไม้ได้อนุญาตประมาณ 887 ไร่ เกิดข้อพิพาทระหว่างชาวบ้านที่อ้างสิทธิทำกินในพื้นที่ดังกล่าวก่อนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีจะเข้ามาก่อตั้ง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พยายามร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกัน ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบแนวเขตที่ดิน และเปิดโอกาสให้ชาวบ้านได้เข้ามาแสดงเอกสารสิทธิ แต่ปัจจุบันปัญหาดังกล่าวยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ เนื่องจากความไม่ชัดเจนของระวางแนวเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินขอมหาวิทยาลัย กับสิทธิของชาวบ้านที่ครอบครองที่ดินบริเวณดังกล่าว ซึ่งมีทั้งเอกสารสิทธิ เช่น โฉนดที่ดิน ส.ค. 1 น.ส. 3 และไม่มีเอกสารสิทธิ นอกจากนี้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารียังประสบกับปัญหาความไม่คล่องตัวในการจัดการบริหารกิจการมหาวิทยาลัยจากการใช้ประโยชน์ในที่ป่าสงวนแห่งชาติ เพราะเงื่อนไขแนบท้ายประกาศกรมป่าไม้ที่กำหนดให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีเข้าใช้ประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งในการขอใช้ประโยชน์ในที่ดินครั้งใหม่ในปี พ.ศ.2562 มหาวิทยาลัยฯ ได้มีแผนดำเนินการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวด้วย
ดังนั้นในวันนี้ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพปัญหา ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พร้อมประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางยุติข้อพิพาทในที่ดินดังกล่าวโดยเร่งด่วนต่อไป ทั้งนี้ที่ประชุมวันนี้ได้เสนอแนะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหา ดังนี้ 1. ขอให้จังหวัดนครราชสีมาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบพิสูจน์เอกสารสิทธิและการถือครองที่ดินของชาวบ้านที่เข้าทำประโยชน์ในที่ดินเป็นรายๆไป พร้อมทำระวางแผนที่ผู้ครอบครองโดยลงพิกัดและรายละเอียดว่าเป็นเอกสารสิทธิประเภทใด ใครเป็นผู้ครอบครอง และครอบครองเนื้อที่เท่าใด เพื่อจำแนกผู้ถือครองที่ดินระหว่างผู้มีเอกสารสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย และผู้ไม่มีเอกสารสิทธิ
2. ขอให้จังหวัดร่วมกับเทศบาลตำบลสุรนารีสำรวจและตรวจสอบประชาชนผู้ถือครองที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ และส่งข้อมูลให้กรมป่าไม้เพื่อนำไปหาแนวทางบริหารจัดการแก้ไขปัญหาของประชาชนผู้ยากไร้เพื่อให้มีที่ดินทำกินภายใต้โครงการของรัฐต่อไป และ 3. ขอให้ มทส. ประสานกรมป่าไม้เพื่อพิจารณาคำขออนุญาตการเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ของ มทส.เพื่อให้การบริหารกิจการของมหาวิทยาลัยได้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป ซึ่งจะมีการติดตามความคืบหน้าเป็นระยะ ๆ ต่อไป โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้มีชาวบ้านเดินทางมาชูป้ายเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากผู้ตรวจการแผ่นดินพร้อมชี้แจ้งข้อมูลในส่วนของประชาชนที่เดือดร้อนด้วย