26 April 2024


(ชมคลิป) ช่วยให้จริง! กลุ่มธุรกิจรายย่อยโคราชโวย พักชำระหนี้ธนาคารพาณิชย์หมกเม็ดไม่จริงใจช่วย

Post on: Apr 16, 2020
เปิดอ่าน: 1,377 ครั้ง

 

กลุ่มธุรกิจรายย่อยโคราช สุดทน วางหรีดดำ ไว้อาลัยธนาคารพาณิชย์ประเทศไทยที่ออกมาตรการไม่เป็นธรรมในการพักชำระหนี้แบบซ้อนดอกเบี้ย ชี้ไม่จริงใจในการแก้ปัญหาขอให้ทุกธนาคารกลับทบทวนวิธีช่วยเหลือใหม่แบบจริงใจไม่หมกเม็ด

วันนี้(15เม.ย.) เวลา 10:30 น. ที่ธนาคารกรุงเทพสาขาอัษฎางค์  เขตเทศบาลนครนครราชสีมา กลุ่มธุรกิจรายย่อยจังหวัดนครราชสีมานำโดย นายสมยศ พัดเกาะ  พร้อมสมาชิก ได้เดินทาง เขายื่นหนังสือเปิดผนึก และ วางพวงหรีดสีดำ เขียนข้อความด้านหน้า ระบุว่า ไว้อาลัยแด่ธนาคารพาณิชย์ของประเทศไทย โดยมอบผ่านประธานชมรมธนาคารพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมาเพื่อขอให้ทุกธนาคารทบทวนการพักชำระหนี้แบบคิดดอกเบี้ยซ้อนและเป็นการแสดงความไว้อาลัยแก่ธนาคารพาณิชย์ของประเทศไทยที่ออกมาตรการไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย

นายสมยศ    กล่าวว่า   จากปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด- 19 ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการอย่างหนัก ซึ่งเป็นมหันตภัยร้ายที่ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ทำให้สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และรัฐบาลก็ได้ประกาศ  พรก. ฉุกเฉินสั่งห้ามประชาชนเข้าพื้นที่เสี่ยง  ปิดสถานที่เสี่ยง ห้ามการเดินทางข้ามจังหวัด ให้พักอยู่ในบ้าน

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ลูกหนี้ของธนาคารประสบปัญหาอย่างหนักเพราะไม่มีรายได้จากการประกอบกิจการอีกทั้งลูกหนี้ที่กู้เงินธนาคารไปประกอบธุรกิจส่วนใหญ่ยังคงแบกภาระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายธนาคารทุกเดือน   แม้เศรษฐกิจจะไม่ดี ตั้งแต่ปี 2557 จนถึง 2563 เจ้าของกิจการส่วนใหญ่ก็พยายามหาเงินมาจ่ายให้ตรงกำหนดเวลาที่ธนาคารกำหนดเพราะเกรงจะเสียประวัติการจ่ายเงิน

แต่ล่าสุดมาตรการที่ธนาคารพาณิชย์อ้างว่าออกมาช่วยเหลือประชาชนนั้น ไม่ได้มีผลดีอะไรเลย แต่กลับเป็นมาตรการที่ได้ประโยชน์ฝ่ายเดียวไม่จริงใจเพราะเป็นกติกาช่วยแบบซ้อนดอกเบี้ยไว้ซึ่งเป็นการซ้ำเติมลูกหนี้

ฉะนั้นทางกลุ่มธุรกิจรายย่อยในจังหวัดนครราชสีมาจึงขอเรียกร้องให้ธนาคารทุกธนาคารแสดงน้ำใจต่อเพื่อนร่วมธุรกิจด้วยกัน  ออกมาตรการเยียวยาให้ความช่วยเหลืออย่างจริงใจ  ไม่หมกเม็ด ไม่ซ้ำเติมลูกหนี้ ให้ตรงกับที่รัฐบาลต้องการช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง  ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยก็จะใช้เงินถึง 4 แสนล้านมาช่วยเหลือธนาคารต่างๆ แต่ทางธนาคารกลับไม่คิดช่วยเหลือประชาชน จึงขอให้ทุกธนาคารรวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทยไปทบทวนวิธีการช่วยเหลือลูกค้าใหม่  ให้ความความเป็นธรรมและจริงใจต่อการแก้ไขปัญหา แก้ไขให้ตรงจุด ให้ช่วยเหลือจริงๆ ก่อนที่ผู้ประกอบการทั้งประเทศ จะทนไม่ไหวและยกระดับการเรียกร้อง มากขึ้นอีก