by

ประเดิม! โคราชเดินเครื่องจัดระเบียบศาลหลักเมือง  หวังสร้างแลนมาร์คแห่งใหม่กลางเมืองโคราชเอกชนรายแรกคืนตึกแถวให้พ่อเมืองนำร่องทุบ พร้อมเร่งเจรจาขอ พท.เพิ่ม

เมื่อเวลา 12.00 วันนี้( 4 พ.ย.) ที่ศาลหลักเมือง บริเวณสี่แยกหลักเมือง ถนนจอมพล เขตเทศบาลนครนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานแถลงข่าวการรับมอบสิทธิคืนพื้นที่จากผู้เช่าอาคารวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร เพื่อขยายพื้นที่บริเวณศาลหลักเมืองนครราชสีมา โดยมี พระสีหราชสมาจารมุนี ผู้ช่วยเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา กับนางวันเพ็ญ ตั้งสุวรรณ ในฐานะผู้เช่าอาคารที่คืนสิทธิ์ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงยกเลิกสัญญาเช่าอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น จำนวน 1 คูหาที่ติดกับศาลหลักเมือง โดยมีพ่อค้าคหบดีเจ้าของกิจการร้านค้าส่วนหนึ่งที่มีอาคารพาณิชย์เป็นพื้นที่ใกล้เคียงร่วมเป็นสักขีพยาน

ทั้งนี้สืบเนื่องจากคณะกรรมการพัฒนาศาลหลักเมืองมีแนวทางในการที่จะพัฒนาศาลหลักเมืองของจังหวัดฯให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เชิดหน้าชูตาของจังหวัดฯ  จึงมีการวางแผนถึงการขยายพื้นที่บริเวณโดยรอบศาลหลักเมืองและมีการปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม ซึ่งขณะนี้เบื้องต้นการปรับปรุง ปรับภูมิทัศน์ ทางคณะกรรมการฯ ได้มีการดำเนินการเท่าทีทำได้ตามเนื้อที่ที่มีอยู่  โดยมีการขออนุญาตจากกรมศิลปากรเป็นที่เรียบร้อยไม่ว่าจะเป็นการขยายบันไดทางขึ้น ศาลหลักเมือง เพื่อลดความแออัด รวมทั้งการทาสีจะเปลี่ยนจากสีทองเป็นสีขาว เพื่อความสวยงามสะอาดตา

ในขณะเดียวกันการดำเนินการขยายพื้นที่รอบศาลหลักเมืองนั้น ทางผู้อาศัยที่เช่าพื้นที่ของวัดพระนารายณ์ฝั่งด้านถนนประจักษ์ตึกแถวห้องที่ 1 ซี่งติดกับศาลหลักเมืองคือนางวันเพ็ญ ตั้งสุวรรณ มีความจำนงค์ที่จะคืนสิทธิ์อาคาร/ตึกที่เช่าจากวัดพระนารายณ์ ให้กับทางวัดซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน ก่อนสัญญาเช่าจะสิ้นสุดลง ในปี 2564  โดยมีการรับมอบการคืนสิทธิ์จากผู้เช่าในวันนี้  หลังจากนั้นจะทำการทุบอาคาร 1 คูหา ที่ได้รับสิทธิ์คืน ออกทันทีภายใน 1-2 เดือนนี้ เพื่อขยายพื้นที่ศาลหลักเมืองให้ประชาชนสามารถจอดรถภายในวัดพระนารายณ์ฯและสามารถเดินมายังศาลหลักเมืองได้โดยสะดวก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ประกอบการ ผู้อาศัย และผู้ได้รับผลกระทบ อ้างตัวเองเป็นชาวชุมชนย่านชุมชนหลักเมืองได้ยื่นหนังสือต่อ ผวจ.นครราชสีมา เรื่องผลกระทบจากการรื้อถอนอาคารบริเวณรอบศาลหลักเมือง โดยมีการลงชื่อขอให้มีการทบทวนโครงการฯและให้ความอนุเคราะห์แก่ชาวชุมชนฯ ให้ได้มีที่อยู่อาศัย และประกอบธุรกิจตามเดิม หรือนำเสนอมาตรการเยียวยาที่ชัดเจนและเป็นธรรม  เช่น  สถานที่ประกอบการทดแทน , เงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ความช่วยเหลือด้านสถาบันการเงิน เพื่อสนับสนุนสินเชื่อในอัตราเบี้ยพิเศษ ความช่วยเหลือทางภาษีในช่วงย้ายกิจการ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาจะได้มีการนัดพูดคุยเจรจาหาทางออกร่วมกันต่อไป สำหรับศาลหลักเมืองนครราชสีมา สร้างขึ้นเมื่อครั้งสร้างเมืองนครราชสีมาระหว่างปี พ.ศ.2199-2231 ในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จนถึงปัจจุบันอายุกว่า 360 ปี โดยในปี พ.ศ.2506 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระบรมราชินีนาถฯ ได้เสด็จมาทำพิธีสังเวย เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2506 เวลา 09.30 น. และทางกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2480 ศาลหลักเมืองจังหวัดนครราชสีมา ตั้งอยู่ที่ถนน จอมพล ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา