by

โคราช ติดโควิดเพิ่ม 34 ราย ยอดสะสม 631 ราย ขอ”ความร่วมมือประชาชนอย่าออกจากบ้านช่วงเวลา 23.00-04.00 น. จ่อแจ้งจับผู้ป่วยชาวยูกันดา-เมีย ไม่กักตัว  ปกปิดไทม์ไลน์

วันนี้ (2 พ.ค.)  ที่ห้องประชุมสำนักงานการกีฬาและท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา  นายวิเชียร จันทรโณทัยผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา โดยมี นายแพทย์วิญญู จันทร์เนตร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมาร่วมประชุมพร้อมแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ว่า

วันนี้ ยืนยันผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 34 ราย พบ ในพื้นที่ อ.เมือง 14 ราย, อ.สีคิ้ว 1 ราย, อ.ด่านขุนทด 3 ราย, อ.ปากช่อง 8 ราย, อ.ครบุรี 1 ราย, อ.บัวใหญ่ 2 ราย, อ.โชคชัย 1 ราย, อ.คง 1 ราย, อ.ปักธงชัย 1 ราย, อ.ประทาย 1 ราย และ อ.แก้งสนามนาง 1 ราย รวมสะสม 631 ราย เสียชีวิต 1 รายและรักษาหาย 202 ราย

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของจังหวัดนครราชสีมา ยังมีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นวันนี้พบผู้ป่วยใหม่ถึง 34 ราย มี อ.ห้วยแถลงเพิ่มมาอีก 1 อำเภอ ตอนนี้เหลืออีก 5 อำเภอที่ยังเป็นพื้นที่สีเขียวไม่พบผู้ป่วย  ยอดผู้ป่วยสะสมถึง 631 ราย อาการหนักต้องใช้เครื่องช่วยหายใจที่พักรักษาตัวอยู่ รพ.มหาราชนครราชสีมาประมาณ 25 ราย ฉะนั้นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดทางคณะกรรมการ ฯ  จึงขอความร่วมมือให้ชาวโคราชงดออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 23.00-04.00 น. รวมทั้งงดจัดกิจกรรมทางสังคม เช่น งานเลี้ยงสังสรรค์ ไม่เช่นนั้นยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มจะไม่ลดลงแน่นอน และขอให้ประชาชนอยู่กับบ้านหากจำเป็นต้องออกไปข้างนอกสวมหน้ากากทุกครั้งและล้างมือบ่อย ๆ

นอกจากนี้ยังได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้ป่วยรายที่ 579 ชายสัญชาติยูกันดา อายุ 32 ปี และผู้ป่วยรายที่ 580 หญิงอายุ 22 ปีชาว อ.เสิงสาง จ.นคราชสีมา  ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นสามีภรรยากัน โดยเป็นผู้เสี่ยงสูงแต่ไม่ยอมกักตัวเอง และไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนของมาตรการทางสาธารณสุข โดยจากการตรวจสอบไทม์ไลน์ วันที่ 16-23 เม.ย สามีภรรยาพักอาศัยอยู่ที่บ้านในเขตบึงกุ่ม กรุงเทพ ฯ วันที่ 24 เม.ย เดินทางไปบ้านของพี่ชาย ย่านรามอินทรา กรุงเทพฯ และร่วมกินข้าวกับพี่ชายและครอบครัวพี่ชาย 3 คน (ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ทั้ง 3 คน) 25-26 เม.ย.ไม่ได้เดินทางไปไหน แต่ภรรยา (ผู้ป่วยรายที่ 580) มีอาการไอ จึงกินยาและพักผ่อน  27 เม.ย. ทราบข่าวจากครอบครัวพี่ชายว่า ครอบครัวพี่ชายทั้ง 3 คนตรวจพบเชื้อโควิด-19 และไปรักษาที่ จ.ฉะเชิงเทรา และ ผู้ป่วยที่เป็นภรรยา มีการไอมากขึ้น 28 เม.ย. เดินทางกลับบ้านที่ จ.นครราชสีมา เนื่องจากต้องการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และภรรยาเรื่องมีอาการป่วยมากขึ้น เวลา 19.00 น. เดินทางไป รพ.เสิงสางทันทีเนื่องจากผู้ป่วยกรณีดังกล่าวหากเป็นมีเจตนาปกปิดไทม์ไลน์จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อให้การป้องกันการแพร่เชื้อมีประสิทธิภาพ