26 April 2024


เอาให้กระจ่าง! สสจ.โคราชตั้ง กก.สอบดราม่าวัคซีนไฟเซอร์ รพ.เฉลิมพระเกียรติฉีดให้ภรรยา ผอ-เภสัชกรร้านขายยา

Post on: Aug 16, 2021
เปิดอ่าน: 614 ครั้ง

 

สสจ.โคราชตั้งกก.สอบข้อเท็จจริง รพ.เฉลิมพระเกียรติฉีดวัคซีนให้ภรรยา ผอ.และเภสัชกรเอกชน คาดอีก 3 วันรู้ผลหากพบไม่ถูกต้องเตรียมเอาผิดทางวินัย  ด้าน ผอ. รพ.ขอความเห็นใจทำตามเงื่อนไขที่ให้มาเสนอ สสจ.พิจราณาก่อนได้รับวัคซีนมาฉีด วอนอย่าทำลายกำลังใจคนด่านหน้า

วันนี้ (16 ส.ค.) นายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงกรณี โลกโซเชียล มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการจัดฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้บุคลากรทางการแพทย์ ของโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา โดยระบุข้อความว่า “กรณีวัคซีนไฟเซอร์ พบว่า ภรรยา ผอ.รพ. สามีหัวหน้าฝ่ายเภสัชกร ได้สิทธิ์ฉีดวัคซีน ทั้งที่ไม่ได้เป็นบุคลากรด่านหน้าอะไร คนใน รพ.ก็ไม่กล้าพูดอะไร เพราะเป็นครอบครัวผู้บังคับบัญชา วัคซีนหล่นหายตามทางก็คนในนี้แหละ” ทำให้มีผู้แชร์ต่อและแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากนั้น ว่า

กรณีดังกล่าวนี้ได้สั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยมี นพ.วิชาญ คิดเห็น รองนายแพทย์ สสจ. เป็นหัวหน้าชุด ซึ่งให้รายงานสรุปเรื่องดังกล่าวภายในวันพฤหัสบดีที่ 19 ส.ค.นี้ โดยประเด็นในการสอบครั้งนี้ จะต้องดูว่า ทั้ง 2 คนที่ถูกระบุนั้นปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้าในการเสี่ยงสัมผัสผู้ป่วยโควิด-19 จริงหรือไม่ และอยู่ในหลักเกณฑ์ที่ทางแพทยสภาให้ไว้หรือไม่ คิดว่าไม่น่ามีอะไรซับซ้อนเพราะความจริงปรากฏอยู่แล้ว

สำหรับจังหวัดนครราชสีมาได้รับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรกเพื่อฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์มาประมาณร้อยละ 60-70 ของจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ที่มีอยู่ประมาณ 18,000 คน หรือได้รับมาประมาณ 15,000 โดส ขณะนี้ฉีดไปแล้ว 14,000โดส เหลืออีกประมาณ 1,000 โดส คาดว่าจะฉีดเสร็จภายใน 1-2 วันนี้ โดยล็อตแรกนี้เราจะจัดสรรให้กับบุคลากรด่านหน้าที่ทำงานเสี่ยง ทั้งของรัฐเอกชน รวมถึงหมอตมคลินิก ตามหลักเกณฑ์ที่แพทยสภากำหนด ส่วนล็อตที่ 2 ซี่งจะมาในอีก 2-3 วันนี้ประมาณ 5,000 โดส จะฉีดให้กับบุคลากรที่ตกหล่นจากล็อตแรก และภาคประชาชน กลุ่มวิชาชีพรวมถึงนักเรียนต่างประเทศ เกษตรกร  และ กลุ่มทันตแพทย์ด้วย

นายแพทย์นรินทร์รัชต์  กล่าวอีกว่า ได้สอบถามเบื้องต้นจาก นายแพทย์แชมป์ สุทธิศรีศิลป์ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ ในเบื้องต้นแล้ว ทาง ผอ.ยืนยันว่าบุคลากรในโรงพยาบาลที่ทำงานด่านหน้าได้ฉีดวัคซีนครบทั้งหมดแล้ว และกรณีที่เป็นข่าวก็ยืนยันว่าเข้าข่าย ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด อย่างไรก็ตามต้องรอผลสอบของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงก่อนจึงจะลงความเห็นได้ หากพบว่ามีการฝ่าฝืนคำสั่งผู้บังคับบัญชาก็มีความผิดทางวินัย ซึ่งมีบทลงโทษตามระเบียบอยู่แล้ว

ด้านนายแพทย์แชมป์ สุทธิศรีศิลป์  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ  กล่าว่า ทางโรงพยาบาลฯ ได้ส่งรายผู้ที่ประสงค์จะฉีดวัคซีนไฟเซอร์ไปจำนวน 138 คนโดยแบ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ จำนวน 135 คน และบุคลากรทางการแพทย์ในคลินิกเอกชน จำนวน 3 คนในจำนวนนี้มีเภสัชกรในร้านขายยาเอกชน ที่เป็นสามีของ หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรมและคุ้มครองผู้บริโภคและภรรยาของตนเองที่ทำงานอยู่ในคลินิกเอกชนรวมอยู่ด้วยให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาพิจารณา เพื่อจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์มาให้ ก็ได้รับการจัดสรรวัคซีนม จำนวน 144 โดส ซึ่งเป็นการให้มาเกิน 6 โดส จากจำนวนที่เสนอชื่อไป ดังนั้นทางโรงพยาบาลฯ จึงได้นำวัคซีนที่เกินไปฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลฯ ที่กำลังตั้งท้อง จำนวน 2 ราย บุคลากรที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนใดๆ เลยอีกจำนวน 3 ราย และบุคลากรที่จองวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มที่ 3 แต่ยังไม่ได้ฉีดอีก 1 ราย เนื่องจากต้องไปดูแลใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 จึงจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันไว้ก่อน

“ยืนยันว่าได้ทำการสำรวจบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ตามเกณฑ์ที่ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาทุกประการ และได้รับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์มาให้ตามที่เสนอชื่อไปทุกราย ส่วนวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรเกินมาก็พิจารณาฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าตามความเหมาะสมทุกราย จึงไม่ได้ไปเบียดเบียนวัคซีนของบุคลากรทางการแพทย์คนอื่นเลย โดยบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลมีอยู่ทั้งหมด 185 คน ซึ่งได้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มไปเกือบทุกคนแล้ว เหลือเพียง 5 คน ที่รอฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มในวันที่ 20 สิงหาคม 2564 นี้ ขณะเดียวกันทางโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ ก็มีผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ในการดูแลกว่า 30 คน และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนก็ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเหน็ดเหนื่อย และเสี่ยงอันตรายมาก จึงอยากให้กำลังใจทุกคนปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถ และวอนสังคมอย่านำเรื่องเท็จมาโจมตีกันจนเสียขวัญกำลังใจ ในช่วงสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้” นพ.แชมป์ กล่าว ในที่สุด