ปล้นทองใช้หนี้! ส.ต.ท.สารภาพปล้นร้านทองใช้หนี้-พ่อป่วย ผบช.ภ.3 ยันไม่เลี้ยงนิ้วร้ายตัดทิ้ง
ส.ต.ท.ร่ำไห้รับสารภาพปล้นร้านทองเพราะหนี้ท่วมประกอบกับพ่อป่วยต้องใช้เงินมาก ผบช.ภ.3 กล่าวขอโทษประชาชนที่ตำรวจเป็นคนก่อเหตุ เผยนิ้วไหนไม่ต้องตัดทิ้ง
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (3 ก.ย.) ที่ห้องประชุม สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อมคณะ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทองในห้างฯบิ๊กซีปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. ปากช่อง ทราบชื่อคือ ส.ต.ท.อนุชา บุญอารักษ์ อายุ 25 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ช่วยงานสิบเวร ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้กล่าวขอโทษพี่น้องประชาชนที่ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุการณ์นี้ขึ้นมาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียเอง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ทุกองค์กรก็มีทั้งคนดีและไม่ดี ซึ่งนิ้วไหนไม่ดีเราก็ต้องตัดทิ้ง และเจ้าหน้าที่เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น เจ้าหน้าที่ก็เร่งทำงานอย่างเต็มที่และดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดได้อย่างรวดเร็ว โดยชุดเสื้อเกราะที่ผู้ต้องหาสวมไปก่อเหตุนั้น เป็นของส่วนตัวแต่อาวุธปืนขนาด 9 มม. เป็นของทางราชการ
อย่างไรก็ตามขอเรียนว่า ในช่วงกลางดึกที่ผ่านเราไม่ได้ตั้งใจนำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ตัวผู้ต้องหาเองที่เต็มใจจะพาไป โดย ได้นำเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดที่ซ่อนทอง จุดเผาเสื้อผ้า เราจึงถือโอกาสทำแผนไปเลย ไม่ได้ตั้งใจที่จะหลบหรือกีดกันไม่ให้สื่อไปทำข่าวแต่อย่างใด ประกอบกับ และเป็นการปฏิบัติตามมาตรการโควิดด้วย การสืบหาตัวคนร้ายนั้นเราเอาข้อมูลหลายอย่างมาประกอบกัน โดยเฉพาะเสื้อเกราะที่สวมในวันก่อเหตุทำให้การหาตัวคนร้ายแคบลง ประกอบกับเพื่อนตำรวจก็จำท่าเดินได้และผู้ต้องหารายนี้ลางานไป 2 วันจึงนำไปสู่การจับกุม ซึ่งจากที่ได้พูดคุยกับผู้ต้องหาทางโทรศัพท์เขาก็ร้องไห้ และเสียใจกับการหลงผิด และรับสารภาพและยอมรับผิดต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย เบื้องต้นเราให้ออกจากราชการแล้ว
ด้าน พล.ต.ต. พรชัย นลวชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา (ผบก.ภ.จว.นม.) กล่าวว่า ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นแม้ว่าเราจะเฝ้าระวังอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม ซึ่งจากเหตุการณ์นี้เราจะต้องนำกลับมาหาทางป้องกันแก้ไขต่อไป อย่างไรก็ตามเราไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นเราพยายามสืบทราบให้เร็วที่สุด จนเรารู้ตัวคนร้าย เมื่อเรียกตัวมาสอบสวนผู้ต้องหาก็รับสารภาพและสำนึกผิด และได้โทรไปขอโทษผู้เสียหาย และให้การในรายละเอียดต่างๆ กับเจ้าหน้าที่ ทั้งรถคันที่ก่อเหตุที่นำไปติดสติ๊กเกอร์ใหม่ จากนี้การดำเนินการก็จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยืนยันว่าเราจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมา แม้ผู้ต้องหาจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ขอให้ประชาชนไว้ใจได้
ขณะนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาไว้ 3 ข้อหา คือ 1.ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธและใช้ยานพาหนะ ,2. พยายามฆ่า และ 3. พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ สำหรับสาเหตุของการณ์ก่อเหตุครั้งนี้ผู้ต้องหารับว่า มีภาระหนีสิ้นมากโดยการไปกู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ที่ จ.บุรีรัมย์รวมประมาณกว่า 1.4 ล้านบาท ประกอบกับบิดาป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ต้องใช้เงินจำนวนมากในการผ่าตัดและดูแล ส่วนการสวมเสื้อของไรเดอร์นั้น ก็เพื่อจงใจที่จะอำพรางโดยผู้ต้องหาสั่งซื้อชุดมาไม่ได้เข้าไปเป็นพนักงานแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหารายนี้ได้ย้ายมาจาก สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 16 ก.พ. มาอยู่ สภ.ปากช่องได้ประมาณ 7 เดือน มีหนี้สินมาจาก จ.บุรีรัมย์ ส่วนของกลาง 132 เส้น น้ำหนัก 126 บาท มูลค่ากว่า 3.5 ล้าน จากการตรวจสอบของเจ้าของร้านทองยืนยันว่าได้มาครบทั้งหมดผู้ต้องหายังไม่ได้นำทองออกไปที่อื่น
ส่วนที่คนร้ายนำขวดที่มีควันไปตั้งไว้หน้าร้านก่อนลงมือนั้น คนร้ายทำขึ้นมาเองโดยใช้ คลอรีน, น้ำตาลทราย และ ถ้าเอาน้ำมันเบรกใส่ไปจะเกิดควันสีขาว แต่ถ้าใช้น้ำมันเครื่องควันจะมีสีดำ ซึ่งคนร้ายศึกษามาเพราะต้องการอำพรางในช่วงก่อเหตุ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
- นับถอยหลัง! งานมหกรรมกาแฟแห่งปี Esan Coffee Fair 2024ยกทัพร้านแบรนด์ดังมาเสิร์ฟชาวอีสาน...
- ปฏิบัติการ“ตัดขาแก๊งคอลจีนเทา”สะพายเป้ใส่เครื่องเกี่ยวสัญญาณ ตระเวณส่ง sms หลอกเหยื่อ...
- “อยู่สบาย” ส่งบ้านแบบใหม่ LA PRAIRIE เพดานสูงโปร่งไม่ร้อนตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนไทย...
- เอไอเอส ชู พลังจากสุดยอดพันธมิตร ช่องทางจัดจำหน่าย ที่ 1 ตัวจริง ...
- โคราชวันไหน! เปิดไทม์ไลน์วันไร้เงา ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก 77 จังหวัดของไทยปี 2567...