by

โคราชจัดกำลังทหารตำรวจ 300 นายดูแลความปลอดภัยนายกฯ ลงตรวจภัยแล้งบ่ายวันนี้ ผู้ว่าฯ โคราชยันพร้อมทั้งสถานที่และข้อมูลในการนำเสนอ เผยนายกฯ เน้นดูระบบบริหารจัดการน้ำลำพระเพลิงเป็นหลัก ระบุไม่พบเคลื่อนไหวมวลชนในพื้นที่  พร้อมชงของบ 1,500 ล.แก้แล้งซ้ำซากลุ่มน้ำลำเชียงไกรตลอดทั้งสายรวมระยะทางกว่า 80 กม.  

วันนี้ (25 พ.ค.) นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมในการต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาตรวจเยี่ยมโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บน้ำ ผันน้ำ เขื่อนลำพระเพลิง และ อ่างเก็บน้ำลำสำลาย อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ในช่วงบ่ายวันนี้ (25 พ.ค.) ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมาว่า

การประชุมล่าสุดช่วยเย็นวานนี้ทุกส่วนได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ โดยต้องการให้นายกรัฐมนตรีเห็นสภาพความเป็นจริงให้มากที่สุด โดยไม่มีการจัดฉากแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีการเตรียมข้อมูลเรื่องการบริหารจัดการน้ำลำพระเพลิง ซึ่งนายกฯ ได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 541 ล้านบาทในการปรับปรุงเขื่อนลำพระเพลิงซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จสมบูรณ์  โดยเพิ่มความสูงของสปิลเวย์ขึ้นอีก 4 เมตรทำให้เพิ่มความจุน้ำได้อีก 50 ล้าน ลบ.ม. เดิมมีความจุ 105 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มขึ้นเป็น 155 ล้าน ลบ.ม. พร้อมเสริมสันเขื่อนให้มีความแข็งแรงมากขึ้นสามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 2558 และ 2559 ได้เป็นอย่างดี

นายวิเชียร กล่าวอีกว่า การรักษาความปลอดภัยในการเดินทางลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ใช้กำลังทหารและตำรวจประมาณ 300 นายเนื่องจากพื้นที่จำกัดและเป็นพื้นที่ของส่วนราชการจึงไม่ต้องใช้กำลังมากนัก โดยจะมีประชาชนมารอต้อนรับประมาณ 800 คน อย่างไรก็ตามยังไม่พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มพลังมวลชนที่จะก่อความไม่สงบในพื้นที่แต่อย่างใด และคาดว่าจะไม่มีการเคลื่อนไหวสำคัญเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

“การเดินทางลงพื้นที่ของนายกฯ ครั้งนี้ค่อนข้างกระชับใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงโดยเน้นการดูพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงเรื่องระบบผันน้ำ และบินสำรวจอ่างเก็บน้ำลำสำลายเท่านั้นก่อนที่จะเดินทางกลับเนื่องจากท่านมีภารกิจมาก ฉะนั้นโปรแกรมที่จัดจึงต้องกระชับให้มากที่สุด แต่เชื่อว่าชาวโคราชจะได้ประโยชน์จากการลงพื้นที่ของท่านในครั้งนี้อย่างแน่นอน” นายวิเชียร กล่าว

ทั้งนี้ทางจังหวัดได้เตรียมข้อมูลโครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งพื้นที่ลุ่มน้ำลำเชียงไกรตลอดทั้งสาย  ซึ่งเป็นพื้นที่แล้งซ้ำซาก ครอบคลุม 4 อำเภอ คือ อำเภอด่านขุนทด อำเภอโนนไทย อำเภอพระทองคำ และอำเภอโนนสูง ระยะทางประมาณ 80 กม.และพัฒนาอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรที่ตื่นเขินโดยจะเสนอของบประมาณจำนวน 1,500 ล้านบาทด้วย