9 May 2024


ส่งล็อตแรก!่”กล้วยหอมทอง”โคราชส่งขายญี่ปุ่นแล้ว รมช.พาณิชย์สั่งทีมพาณิชย์เร่งดันส่งออกเพิ่มช่วยเกษตรกร

Post on: Apr 27, 2024
เปิดอ่าน: 766 ครั้ง

 

รมว.พาณิชย์ “ ปลื้ม ” กล้วยหอมทอง“ โคราช ส่งออกไปญี่ปุ่นเพิ่ม  สั่งทีมพาณิชย์เร่งส่งออกสินค้าเกษตร ช่วยชาวสวนไทยมีรายได้ยั่งยืน

วันนี้ (27 เม.ย.67) เวลา 8.30 น.นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้มอบนโยบายให้ทีมพาณิชย์  เร่งติดตามผลการทำงานเชิงรุก ประสานงานกับทุกภาคส่วน ในการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยเพิ่มรายได้เข้าประเทศ  ล่าสุดได้รับรายงานจาก สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา โดยนายจีระศักดิ์ ศรีเพชร พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา ถึงความสำเร็จในการผลักดันส่งออกกล้วยหอมทองของไทยไปยังประเทศญี่ปุ่น ของบริษัทแปลงใหญ่กล้วยหอมทองสุขไพบูลย์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นการส่งออกครั้งแรกของบริษัทฯ  ที่เกิดจากความร่วมมือภาครัฐและเอกชน ทำงานร่วมกันจนสามารถดำเนินการส่งเสริมผู้ประกอบการส่งออกจนประสบความสำเร็จ ซึ่งบริษัทแปลงใหญ่กล้วยหอมทองสุขไพบูลย์ มีเป้าหมายที่จะส่งออกจำนวน 120 ตัน/เดือน และมีแผนที่จะเพิ่มปริมาณการส่งออกให้ได้ถึง 8,000ตัน/ปี ในอนาคต

ทั้งนี้ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่นิยมบริโภคกล้วยมาก เพราะผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยที่มีคุณค่าทางอาหารสูง และมีราคาที่ไม่แพงมากเข้าถึงได้และสามารถนำไปใช้แปรรูปเป็นขนมได้หลายชนิด ขณะที่ญี่ปุ่นปลูกกล้วยได้ในปริมาณน้อย เนื่องจากมีภูมิอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ดังนั้นแต่ละปีจะต้องนำเข้ากล้วยเข้ามาบริโภคในประเทศถึงปีละกว่า 1 ล้านตัน แต่ยังนำเข้าจากไทยในปริมาณที่น้อย ทั้งนี้ ไทยกับญี่ปุ่นได้มีความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย -ญี่ปุ่น (Japan – Thailand Economic Partnership Agreement) หรือที่เรียกว่า JTEPA ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2550 โดยญี่ปุ่นให้สิทธิพิเศษการยกเว้นภาษีนำเข้ากล้วยจากประเทศไทยเป็นจำนวน 8,000 ตัน แต่ที่ผ่านมายังใช้สิทธิไม่ครบ กระทรวงพาณิชย์ จึงเร่งส่งเสริมส่งออกกล้วยหอมของไทยไปยังตลาดญี่ปุ่นเพิ่ม

ครั้งนี้ก็เป็นผลจากความสำเร็จของการบูรณาการ ทำงานในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการจัด กิจกรรมการสั่งซื้อสินค้าผลไม้ล่วงหน้าก่อนผลผลิตออกของ กระทรวงพาณิชย์โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศที่จัดขึ้น และวันนี้ผู้ประกอบการและเกษตรกรไทยก็ได้ทยอยส่งสินค้าไปตามคำสั่งซื้อเหล่านั้น ซึ่งเป็นการยืนยันการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ที่มีผลงานเป็นรูปธรรม ต้องขอขอบคุณพาณิชย์จังหวัด ทูตพาณิชย์ในต่างประเทศ หน่วยงานภาครัฐ ผู้ประกอบการ เกษตรกร และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่ช่วยกันผลักดันการส่งออกให้กับสินค้าเกษตรและสินค้า SMEs ไทย หลังจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ จะเร่งการทำงานในเชิงรุกเพื่อเพิ่มตัวเลขการส่งออก และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทยเพิ่มขึ้นต่อไป อยากให้เกษตรกรและผู้ประกอบการช่วยกันการควบคุมคุณภาพ และปรับตัวให้เข้ากับระเบียบการค้าโลกใหม่ ที่เน้นสิ่งแวดล้อม แหล่งกำเนิดสินค้า สีเขียวและสุขภาพ เพื่อที่จะได้เติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป