by

งานศพแม่กรอกยาพิษลูกสาว 2 คนแต่รอด 1 คน ก่อนกินยาฆ่าตัวตายตามเหตุน้อยใจสามีมีกิ๊กสุดเศร้า ญาติบรรจุศพ 2 แม่ลูกกอดกันไว้ในโลงเดียว น้าสะใภ้เผยไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ ทั้งที่ไม่มีปัญหาทางการเงิน มีทรัพย์สินมากมาย  ด้านเพื่อนสนิทที่ถูกระบุไว้ในจม. ลาตาย เผยแม่เด็กเป็นคนขี้น้อยใจ โมโห ฉุนเฉียว แต่ไม่คิดว่าเพื่อนจะตัดสินปัญหาแบบนี้เรื่องสั่งเสียในจม. ขอปรึกษากันก่อน  เตรียมเผา 2 แม่ลูกวันพุธนี้ ขณะที่ลูกสาวคนโตปลอดภัยแล้วแต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีเกิดเหตุนางสมสมัย  เจียนจอหอ อายุ 36 ปี กรอกยาพิษลูกสาว 2 คนก่อนกินยาฆ่าตัวตายตาม แต่ลูกสาวคนโตคือน้ององศา วัย 5 ปีรอดชีวิตหวุดหวิด ส่วนตัวนางสมสมัย และ ด.ญ. ณัฐวรัญ ระเบียบโพธิ์  หรือ น้องมะนาว ลูกสาววัย 1 ปี 6 เดือนเสียชีวิต สาเหตุเพราะน้อยใจคิดว่าสามีไปติดพันผู้หญิงอื่น โดยนางสมสมัย ได้เขียนจดหมายลาตายทิ้งไว้ในการจัดการมรดกและทรัพย์สินต่างๆ ของตอนเองโดยบริจาคให้สาธารณกุศลทั้งหมด  เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 261หมู่ 12 บ้านหนองยารักษ์ ตำบลพุดซา อำเภอเมืองนครราชสีมา เมื่อวาน (8พ.ย. 58) ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (9 พ.ย. 2558)ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดหนองยารักษ์ ตำบลพุดซา อำเภอเมืองนครราชสีมา ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมศพของแม่และลูกสาวคนเล็ก โดยญาติได้นำศพสองแม่ลูกบรรจุไว้ในโลงเดียวกัน เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาตามที่แม่ของเด็กได้เขียนระบุไว้ในจดหมายท่ามกลางบรรยากาศสุดเศร้าสลดของญาติพี่น้องที่ต้องสูญเสียคนรักไปพร้อมกันในคราวเดียว ซึ่งทุกคนยังอยู่ในอาการมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ญาติและคนรู้จักส่งพวงหรีดมาไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายจำนวนหนึ่ง

นางสีเลียบ สมพงษ์ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 ม. 12 บ้านหนองยารักษ์ ต.พุดซา ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าสะใภ้ กล่าวด้วยน้ำตาคลอหน้าว่า ไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นไปลูกหลานของตัวเอง  หลานสาว (นางสมสมัย) เหลือญาติแท้ ๆ อยู่เพียงคนเดียวคือสามีตัวเอง เพราะพ่อแม่เสียชีวิตไปหมดแล้วและนางสมสมัยก็เป็นลูกคนเดียว ทรัพย์สินต่างๆ ก็มีมากพอไม่ถึงกับขัดสน อยู่อย่างสบายที่นาที่ไร่ ทรัพย์สินเงินทองก็มีไม่ได้เดือดร้อน จึงไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดจึงตัดสินใจเช่นนี้ เหลนก็กำลังน่ารักญาติทุกคนก็ช่วยกันเลี้ยงดูและรัก  แต่หลานสาวมักจะไม่นำเรื่องในครอบครัวมาเล่าให้ฟัง เคยเห็นบ้างที่ทะเลาะกับสามีแต่ก็ไม่รุนแรงอะไร เป็นเรื่องของผัวเมียธรรมดา จากนี้ไปก็คงเป็นเรื่องของพ่อเด็กที่จะดูแลกัน   ตอนนี้ทุกคนก็ช่วยเหลือกันเลี้ยงดูหลานที่มีชีวิตอยู่ต่อไป

ขณะที่ น.ส.จุรีรัตน์  ทอนพลกรัง อายุ 36 ปี ญาติสนิท ซึ่งถูกระบุในจดหมายลาตายให้เป็นคนดูแลจัดการทรัพย์สินต่างๆ  กล่าวว่า  เป็นญาติและเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ยังเด็กมีปัญหาอะไรก็มักจะมีพูดคุยปรึกษาอยู่เป็นประจำ แต่นางสมสมัย จะเป็นคนขี้น้อยใจ และขี้โมโหฉุนเฉียว  จดหมายที่เพื่อนสั่งเสียเอาไว้นั้น ก็คงต้องพูดคุยกับญาติพี่น้องและสามีรวมถึงลูกที่ยังมีชีวิตอยู่ว่าจะทำยังไงต่อไป แต่ก็ต้องให้สิทธิ์ของสามีเพื่อนที่ยังมีชีวิตอยู่และจะต้องเลี้ยงลูกสาวต่อไป ตนก็จะคอยช่วยอยู่ห่าง ๆ ตอนนี้ยังทำใจอะไรไม่ได้ และคิดอะไรไม่ออก รู้สึกเสียใจอย่างมากที่เพื่อนตัดสินใจเช่นนี้ โดยเช้าวันเกิดเหตุนางสมสมัย นัดตนเพื่อจะออกไปทำธุระด้วยกัน เมื่อตนมาถึงบ้านกลับพบเพื่อนและลูกกลายเป็นศพเป็นภาพที่น่าสะเทือนใจอย่างมาก

ทั้งนี้ครอบครัวของผู้ตายได้เตรียมจัดพิธีฌาปนกิจศพ 2 แม่ลูกในวันพุธที่ 11พฤศจิกายนนี้ โดยจะเผาคนละครั้งในวันเดียวกัน เพื่อสะดวกในการจัดเก็บเฒ่ากระดูกต่อไป โดยคราว ๆ จะทำพิธีเผาศพผู้เป็นแม่ก่อนในช่วงบ่ายต่อจากนั้นในช่วงเย็นก็จะทำพิธีเผาศพลูกสาวเป็นศพต่อไป

ส่วนนายสรพงษ์ ระเบียบโพธิ์ สามีและพ่อของเด็ก ขณะนี้ยังคงอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจอย่างหนักและยังทำใจไม่ได้ และยุ่งวุ่นวายอยู่กับการจัดงานศพของภรรยาและลูกสาวคนเล็ก ส่วนอาการของน้ององศา ลูกสาวคนโตวัย 5 ปีล่าสุดอาการปลอดภัยแล้วแต่ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา