by

ทภ. 2 จัดเวทีสาธารณะสร้างปรองดองในพื้นที่ภาคอีสาน แม่ทัพภาคที่ 2 เผยทุกภาคส่วนตอบสนองการปรองดอง ยอมรับยังมีบางพื้นที่สร้างปรองดองช้า

 วันนี้ (18 ก.ค.) เวลา 13.00 น. ที่ห้องศรีพัชรินทร์ สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พลโทวิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 เป็นประธานเปิดการจัดเวทีสาธารณะเพื่อร่วมกันพิจารณาร่างสัญญาประชาคม และสร้างความรับรู้เพื่อความสามัคคีปรองดองในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยได้เชิญผู้แทนจากภาคส่วนต่างๆ ในพื้นที่ 20 จังหวัดทั่วทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด ผู้แทนพรรคการเมือง ผู้แทนกลุ่มการเมือง ผู้แทนองค์กร และประชาชน เพื่อเข้าร่วมรับฟังการชี้แจงร่างสัญญาประชาคมจากคณะอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอกระบวนการเพื่อความสามัคคีปรองดอง โดยเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายถกแถลง และเสนอความคิดเห็นเพิ่มเติม ก่อนที่คณะอนุกรรมการฯ จะนำข้อคิดเห็นต่างๆ ไปพิจารณาจัดทำร่างสัญญาประชาคมฉบับสมบูรณ์ต่อไป

ทั้งนี้สำหรับผู้แทนพรรคการเมืองมีทั้งพรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส. และอดีตผู้สมัคร ส.ส. และพรรคชาติพัฒนา อดีต ส.ส.  ผู้แทนกลุ่มการเมืองทั้งฝ่าย นปช. เสื้อแดง และ กกปส. เสื้อเหลือง ผู้แทนองค์กรต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นจังหวัด และประชาชน จากการสังเกตของผู้สื่อข่าวพบว่าเวทีคนดังที่เดินทางมากลับไม่มี ”เจ๊เกียว” ดร.สุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะแห่งประเทศไทย “เจ้าแม่รถทัวร์” ครั้งที่ 3 ไม่ได้มา เนื่องจากแจ้งว่าติดภารกิจ ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 2 มีชื่อเชิญมาร่วมด้วย     

พลโทวิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า สถานการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่จังหวัดภาคอีสานลดลง ซึ่งทุกวันนี้คนในภาคอีสานพูดเป็นภาษาอีสานเขาเรียกว่า หมู่พวกกันทั้งนั้นและกลายเป็นเรื่องที่ง่ายๆสำหรับการที่จะผนึกกำลังปรองดองกัน ทุกคนทุกกลุ่มส่วนใหญ่ก็มีท่าทีตอบสนองในเรื่องของการที่จะสร้างความสามัคคีปรองดองกันทั้งสิ้น ซึ่งขณะนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี ทุกภาคส่วนเริ่มมีความสมัครสมานสามัคคีกันเพิ่มมากขึ้น และทำให้การสร้างความปรองดองในพื้นที่ทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งทุกภาคส่วนก็มีท่าทีตอบสนองในการที่จะร่วมกันสร้างความสามัคคีปรองดองกัน อย่างไรก็ตามก็ยังคงมีประชาชนบางกลุ่มบางพื้นที่ที่ยังอาจรับรู้ข่าวสารได้ไม่ทั่วถึง ซึ่งก็อาจทำให้การสร้างความปรองดองล่าช้าไปบ้าง แต่ในภาพรวมถือว่าการสร้างความปรองดองในพื้นที่ภาคอีสานเป็นไปด้วยดีอย่างต่อเนื่อง