by

ชลประทานโคราชห่วงน้ำเขื่อนเหลือน้อย “หว่ามก๋อ” ไม่ช่วยให้พ้นวิกฤติรอลุ้นฝนเดือน ต.ค.ชี้หากน้ำในเขื่อนใหญ่ไม่ถึงร้อยละ 50 ของความจุรวม ปีหน้าเผาจริงวิกฤติแล้ง

วันนี้ (16 ก.ย.) นายจักรกฤษ  แจ้งกรณ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่าถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 5 โครงการว่า จากอิทธิพลของพายุ หว่ามก๋อ ส่งผลให้เกิดฝนตกต่อเนื่อง 2 วัน ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้น  โดยมีน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลาง รวม 9.669 ล้าน ลบ.ม.โดยล่าสุดมีปริมาณมีปริมาณน้ำอยู่  219.76  ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 23.18  ของความจุระดับกักเก็บ 948 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำไหลลงอ่างฯ วันเดียว 6.48 ล้าน ลบ.ม. โดยแบ่งเป็น

เขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำเหลือ 65.60 ล้าน ลบม. (น้ำใช้การได้ 50 ล้าน ลบ.ม.)คิดเป็นร้อยละ 20.86 ของความจุระดับกักเก็บ 314 ล้าน ลบ.ม.  มีน้ำไหลลงอ่างฯ 1.31 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำเหลือ 20.80 ล้าน ลบม. คิดเป็นร้อยละ 18.97 ของความจุระดับกักเก็บ 109 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำไหลลงอ่างฯ  4.79 ล้าน ลบ.ม.  เขื่อนลำมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำเหลือ 33.39  ล้าน ลบม. คิดเป็นร้อยละ 23.68 ของความจุระดับกักเก็บ 141 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำไหลลงอ่าง 0.68 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำเหลือ 53.96  ล้าน ลบม. คิดเป็นร้อยละ 19.62  ของความจุระดับกักเก็บ 275 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำไหลลงอ่างฯ 0.43 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนลำปลายมาศ อ.เสิงสาง มีปริมาณน้ำเหลือ 38.84 ล้าน ลบม. คิดเป็นร้อยละ 39.63 ของความจุระดับกักเก็บ 98 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำไหลลงอ่างฯ 0.58 ล้าน ลบ.ม.

ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 22 โครงการ มีปริมาณน้ำเหลือ 79.21 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 3.4.94 ของความจุที่ระดับกักเก็บรวม 226.74 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำไหลลงอ่างฯ รวม 3.189 ล้าน ลบ.ม.

อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนต่าง ๆ ของจังหวัดนครราชสีมาจนถึงขณะนี้ยังถือว่าน่าเป็นห่วง จะต้องใช้แผนบริหารจัดการน้ำและใช้น้ำอย่างประหยัดต่อไป  หากในปีนี้มีน้ำในอ่างฯ ขนาดใหญ่ไม่ถึงร้อยละ 50 ของความจุรวม คาดว่าจะส่งผลให้ฤดูแล้งปีหน้าต้องเจอวิกฤติน้ำแล้งอย่างหนักแน่นอน