by

“ผบ.มทบ.21” กองทัพภาค 2 เรียกทุกฝ่ายเคลียร์ปัญหานายก อบจ.โคราช เด้ง ผอ.โรงเรียนดังไม่เป็นธรรม ปิดห้องประชุมลับนานกว่า 1 ชม. สรุปให้ กก.สอบข้อเท็จจริงของ อบจ.ดำเนินการให้แล้วเสร็จและสรุปผลใน 31 พ.ค.นี้ก่อนรายงานให้จังหวัดและทหารทราบ ด้าน ผอ.ถูกเด้งยันบริสุทธิ์ พร้อมขอความเป็นธรรมจากนายก อบจ. และขอโอกาสได้ชี้แจงต่อ กก.สอบ

วันนี้ (19 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนายไพศาล มีสวัสดิ์ อายุ 58 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา และนายชาติ เงินจังหรีด รองผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้าฯ ถูกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมามีคำสั่งย้ายด่วน ตามคำสั่ง อบจ.นครราชสีมา ที่ 1922/2559 ลงวันที่ 3 พ.ค. 2559 จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าไม่เป็นธรรม และนักการเมืองรังแกข้าราชการที่มีผลงานดีเลิศ

ต่อมานายไพศาลได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม และเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้สื่อข่าวท้องถิ่นรายหนึ่งที่โพสต์ข้อความหมิ่นประมาทในเรื่องดังกล่าว ขณะที่กลุ่มผู้ปกครองและนักเรียนได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมที่ทำเนียบรัฐบาล และกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ทบทวนการโยกย้ายดังกล่าว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (19 พ.ค.) เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 21 (มทบ.21) ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.วิทูรย์ ศิริปักษ์มานนท์ ผู้บัญชาการ มทบ.21 ได้นัดเจรจาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวเพื่อหาทางออกร่วมกัน โดยมี ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายก อบจ.นครรราชสีมา, นายไพศาล มีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ถูกสั่งย้าย และกลุ่มผู้ปกครองประมาณ 10 ราย รวมทั้งนายณรงค์ วุ่นซิ้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เดินทางเข้าร่วมประชุม โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์แต่อย่างใด การประชุมร่วมกันใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง

นายไพศาล มีสวัสดิ์ อายุ 58 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา ที่ถูกสั่งย้าย กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมว่า ในการดำเนินคดีต่อผู้ที่โพสต์ข้อความหมิ่นประมาทนั้นก็ยังเดินหน้าดำเนินคดีต่อไปแม้จะมีผู้ใหญ่โทรศัพท์มาพูดคุยก็ตาม หากผู้โพสต์ยอมรับว่าผิดก็ยินดีที่จะเข้าสู่กระบวนการให้เขาเป็นผู้แถลงกล่าวขอโทษ ตนยินดีเพราะเป็นลูกผู้ชายอยู่แล้ว และหากเขาคิดว่าตัวเองได้ทำพลาดไปเนื่องจากได้รับข้อมูลไม่ถูกต้องก็ควรได้รับการดำเนินการในสิ่งเดียวกัน เพื่อให้ตนได้รับความเป็นธรรมเช่นเดียวกัน เพราะสิ่งเหล่านี้ยังไม่เข้าสู่กระบวนการของศาลก็สามารถพูดคุยกันได้ เรื่องนี้อยู่ที่ตัวคนโพสต์ ไม่ได้อยู่ที่ตน และส่วนตัวไม่เคยมีปัญหากับสื่อจากนี้จะทำหนังสือถือองค์กรของสื่อในจังหวัดนครราชสีมาให้ตรวจสอบจริยธรรมของคนโพสต์ดังกล่าว รวมถึงองค์กรสื่อที่ส่วนกลางด้วย และในส่วนตัวคนโพสต์ที่เป็นสื่อเองควรทบทวนบทบาทหน้าที่ของตัวเองด้วย

ในส่วนของ อบจ.นครราชสีมานั้น ตนทราบเพียงว่าได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องการโยกย้ายนี้แล้ว แต่ตนยังไม่ได้รับการติดต่อจากใครเลย อย่างไรก็ตาม ต้องขอความเป็นธรรมว่าสิ่งเหล่านี้ต้องฟังการชี้แจงจากตนก่อนเพราะทุกเรื่องราวมีที่มาที่ไป การที่จะใช้ข้อสรุปของกรรมการส่วนเดียวโดยไม่ได้สอบถามผู้ปฏิบัติหรือสร้างความกระจ่างนั้นเป็นการไม่ให้ความเป็นธรรมแก่ตน จะทำให้ข้าราชการไม่กล้าที่จะทำอะไรและหมดกำลังใจในการทำงาน อีกทั้งการโยกย้ายที่ไม่ปกตินั้นไม่เป็นผลดีต่อทั้ง 2 โรงเรียน และจะเกิดปัญหาในด้านการบริหารงานที่ไม่ต่อเนื่อง สิ่งที่เรียกร้องอยากให้ผู้บริหาร อบจ.ใช้ความระมัดระวังในเรื่องดังกล่าวนี้ด้วย ส่วนประเด็นเรื่องเป็นธรรมหรือไม่นั้น เชื่อว่าสังคมจะรับรู้และเวลาจะพิสูจน์เอง

นายไพศาลกล่าวว่า สำหรับการเดินทางมาครั้งนี้ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้ประสานทุกฝ่ายมาหารือกัน ในส่วนตัวตนจะพูดทุกเรื่องแต่อยากให้ประธานในที่ประชุมปกป้องข้าราชการว่าจะไม่มีปัญหาตามมา ซึ่งไม่ได้พูดเพื่อทำร้ายใคร แต่พูดจากข้อเท็จจริง และจะเรียกร้องให้ทางกองทัพภาคที่ 2 ตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้ โดยมีหลายฝ่ายเข้าไปเป็นกรรมการ เพราะตนไม่เชื่อมั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ อบจ.ตั้งขึ้นมา

ทั้งนี้ สิ่งที่อยากขอความเป็นธรรมไปยังนายก อบจ.นครราชสีมา คือ 1. หากเปิดไต่สวนสาธารณะแล้วพบว่าตนไม่ผิด สามารถชี้แจงได้ ผู้ปกครองยอมรับ ตนก็ยินดีกลับมาเป็นผู้บริหารโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา 2. การที่นายก อบจ.ไปพูดที่โรงเรียนเตรียมอุดมฯ เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา ขอให้ทำจริงตามที่พูดไว้ โดยเฉพาะการจัดสรรงบประมาณให้โรงเรียนอย่างเพียงพอ และ 3. ขอให้เคลียร์เรื่องเกี่ยวกับการสอบสวนให้หมด เพื่อให้การทำงานของตนเดินหน้าได้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการประชุมหาทางออกร่วมกันของทุกฝ่ายที่ มทบ.21 ในวันนี้ ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า ให้กรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ อบจ.นครราชสีมา แต่งตั้ง ได้ดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จและสรุปผลภายในวันที่ 31 พ.ค. 2559 นี้พร้อมรายงานให้ทางจังหวัดนครราชสีมา และ มทบ.21 ทราบ โดยฝ่ายทหารจะช่วยดูแลให้การสอบสวนข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ทั้งนี้ หากผลการสอบสวนออกมาพบว่าผิดจริง ให้ตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดตามขั้นตอนต่อไป แต่หากไม่ผิดให้ย้ายนายไพศาล มีสวัสดิ์ กลับมาทำหน้าที่ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมน้อมเกล้า นครราชสีมา ตามเดิม และให้นายก อบจ.นครราชสีมา ทำตามที่พูดไว้กับผู้ปกครองนักเรียนและครูเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการจัดสรรงบประมาณให้กับทางโรงเรียนอย่างเพียงพอ

ขณะที่ ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายก อบจ.นครรราชสีมา หลังเสร็จสิ้นการประชุมได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยทนายส่วนตัวบอกว่าไม่สามารถสัมภาษณ์ได้