by

สีสันโค้งสุดท้าย! โรงเรียนหลังเขา อ.ครบุรี โคราช ระดมนักเรียนทั้งโรงเรียน  เร่งเขียนจม.ถึงผู้ปกครองเชิญชวนไปใช้สิทธิลงประชามติร่าง รธน. ส่วนเด็กอนุบาลให้วาดการ์ตูนสื่อความหมายแทน หวังกระตุ้นผู้ปกครองและสมาชิกในครอบครัว พร้อมเตรียมจูงมือพ่อแม่ปู่ย่าตายไปหน่วยออกเสียง 7 ส.ค. นี้ ชี้ได้รับการตอบรับดีทำปชช.ตื่นตัวเชื่อใช้สิทธิมากขึ้น

วันนี้( 28 ก.ค.) ที่โรงเรียนจอมทองวิทยา บ้านตลิ่งชัน  ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา สังกัดสำนักงานเขตพื้นการศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 3 ซึ่งตั้งอยู่บนเขา หลังเขื่อนลำแชะ  จ.นครราชสีมา ได้จัดกิจกรรมสัปดาห์ประชามติ เพื่อให้นักเรียนและครูรวมถึงเจ้าหน้าที่ได้มีส่วนร่วมในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์การออกเสียงประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญ (รธน.) 7 สิงหาคม 2559

โดยทางโรงเรียนได้แจกหนังสือคู่มือนักเรียนมีส่วนร่วมออกเสียงประชามติ  โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันลงประชามติ ได้มอบหมายให้นักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ( ป.3) –  มัธยมศึกษาปีที่ 3 (ม.3)  เขียนจดหมายเชิญชวนผู้ปกครองออกไปใช้สิทธิในการออกเสียงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ พร้อมให้ผู้ปกครองได้ตอบข้อซักถามในจดหมายดังกล่าวด้วยว่า จะออกไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติหรือไม่ ก่อนจะให้เด็กนักเรียนนำผลการสอบถามกลับมาส่งครูประจำชั้นภายในสัปดาห์นี้

นายทิน เลาะครบุรี ผู้อำนวยการโรงเรียนจอมทองวิทยา เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรม  6 สัปดาห์ประชามติ “ 7 สิงหา ประชามติร่วมใจ ประชาธิปไตยมั่นคง “ เพื่อส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยให้นักเรียนทั้งโรงเรียน ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล- ม.3 รวม จำนวน 240 คน จาก 4 หมู่บ้าน รวมทั้งครูอาจารย์ 17 คน แม่บ้าน และนักการภารโรง ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมครั้งนี้

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มอบหมายให้นักเรียนไปสำรวจสมาชิกในครอบครัวว่า มีผู้มีสิทธิลงประชามติจำนวนกี่คน , มีหน่วยออกเสียงประชามติ ตั้งอยู่ตรงไหน ,ความสำคัญของการลงประชามติ  ,การสาธิตการใช้สิทธิลงประชามติ , การทำความเข้าใจเกี่ยวกับบัตรลงประชามติ และ ทางโรงเรียนยังได้จัดกิจกรรมร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการเดินรณรงค์เชิญชวนประชาชนให้ออกไปใช้สิทธิ ในวันที่ 7 ส.ค. 2559 ด้วย

นายทิน กล่าวต่อว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันลงประชามติ 7 สิงหาคมนี้  ได้มอบหมายให้นักเรียนระดับชั้น อนุบาล- ป. 2  วาดภาพการ์ตูนสื่อความหมายเชิญชวนให้ผู้ปกครองสมาชิกในครอบครัวออกไปใช้สิทธิ  ส่วนนักเรียนระดับ ชั้น ป.3 – ม.3 ให้เขียนจดหมายเชิญชวนและสอบถามผู้ปกครองว่าจะออกไปใช้สิทธิลงประชามติหรือไม่ และนำกลับมาส่งครูประจำชั้นภายในสัปดาห์นี้

ส่วนวันที่ 7 ส.ค. ซึ่งเป็นวันออกเสียงลงประชามติ จริง ให้จูงมือพ่อแม่ ปู่ย่าตายายญาติพี่น้องผู้ปกครองทั้งหมด ไปยังหน่วยออกเสียงประชามติ เพื่อไม่ให้นอนหลับทับสิทธิ พร้อมให้สังเกตการณ์ การออกเสียงประชามติในหน่วยใกล้บ้านว่า มีคนออกมาใช้สิทธิมากน้อยเพียงใด จากจำนวนผู้สิทธิเท่าใด ก่อนนำกลับมาทำรายงานส่งครูประจำชั้นอีกครั้ง

สำหรับการจัดกิจกรรมดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ปกครอง ทำให้มีการตื่นตัวและรับทราบว่า วันที่ 7 ส.ค. 2559 จะมีการลงประชามติร่างรธน.และคาดว่าจะมีการออกไปใช้สิทธิมากขึ้นกว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา ขณะเดียวกันตนได้กำชับ ครู และบุคลากรในโรงเรียนให้ช่วยประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนและให้ออกใช้สิทธิเพื่อเป็นตัวอย่างแก่ชาวบ้านและเด็ก ๆ ด้วย

“ จึงขอประชาสัมพันธ์ ถึงผู้ปกครองนักเรียนและประชาชน ทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ ให้ไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญ  ในวันที่ 7 ส.ค. 2559 นี้  ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.” นายทิน กล่าว