by

ศาลฎีกาเลื่อนอ่านคำพิพากษาคดีประวัติศาสตร์ นศ.วิทยาลัยพยาบาลโคราช ฟ้องถูกหลอกให้เรียนจนจบโดยหลักสูตรไม่ผ่านการรับรองจนจบถึง 5 รุ่น เผยอธิการฯ ไม่มาศาล นัดใหม่ 21 พ.ย.นี้ หลัง 2 ศาลแรกตัดสินจำคุก 20 ปี พร้อมจ่ายชดเชย

วันนี้ (18 ต.ค.) ที่ศาลจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชีมา ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีดำหมายเลขที่ อ.1749/2554 และคดีแดงหมายเลขที่ อ.520/2557 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดนครราชสีมา นายพรหมวิสิทธิ์ ภูมิรัตน์ และพวกรวม 153 คน ผู้ร้องและโจทย์ร่วม กับวิทยาลัยนครราชสีมา กับพวกรวม 2 คน เป็นจำเลย กรณีที่วิทยาลัยนครราชสีมารับนักศึกษาโดยที่ไม่ผ่านการรับรองหลักสูตรจากสภาการพยาบาล ส่งผลให้นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษามาจากวิทยาลัยแห่งนี้ไม่สามารถสมัครเพื่อสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพพยาบาลได้

โดยในวันนี้มีอดีตนักศึกษาพยาบาลเดินทางมาฟังคำพิพากษากว่า 100 คน ทำให้ล้นห้องพิจารณาคดีศาลต้องย้ายจากบัลลังก์ 21 ชั้น 3 ลงมาที่ห้องพิจารณาคดี 2 ชั้น 2 ที่จุคนได้มากกว่าแทน ขณะที่ฝ่ายจำเลยมีเพียงนายศรันย์ อินทกุล จำเลยที่ 2 เดินทางมาฟังคำพิพากษา ศาลจึงให้เจ้าที่ติดต่อนายฉลอม อินทกุล อธิการบดีวิทยาลัยนครราชสีมา จำเลยที่ 1 มาฟังด้วย โดยนายฉลอมอ้างว่าติดประชุมอยู่ที่ จ.ปทุมธานี จะเดินทางมาช่วงบ่าย ศาลจึงให้รอจำเลยที่ 1 ก่อน

อดีตนักศึกษาพยาบาลวิทยาลัยนครราชสีมา รุ่นที่ 4 รายหนึ่งกล่าวว่า คดีนี้นักศึกษาต่อสู้กันมายาวนานร่วม 8 ปี ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้จำคุกผู้บริหารวิทยาลัยทั้ง 2 คนไม่น้อยกว่า 20 ปี และชดเชยค่าเสียหาย โดยตนเองและเพื่อนๆ รุ่นที่ 4 ได้รับเงินแล้วคนละ 90,000 บาท ส่วนคนอื่นๆ ได้รับไปเช่นกัน แต่ละคนจะไม่เท่ากัน และวันนี้ศาลได้นัดมาฟังคำพิพากษาทีอดีตนักศึกษาทั้ง 5 รุ่นเดินทางมาวันนี้ซึ่งการต่อสู้ของพวกเราได้ระดมเงินกันคนละ 3,000 บาท เพื่อจ้างทนายความสู้คดี

วันนี้ ศาลนัดตั้งแต่ 09.00 น. แต่ผู้บริหารโรงเรียนกลับไม่มาตามนัดต้องเลื่อนเป็นช่วงบ่าย ต้องทำให้เสียเวลาอีก คนที่เดินทางมาไกลน่าเห็นใจ อย่างไรก็ตาม คาดว่าวันนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายและมั่นใจว่าศาลจะให้ความเป็นธรรมและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่นักศึกษาทุกคน โดยทั้งนี้ได้มีการยื่นฟ้องแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายด้วย

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายฉลอม อินทกุล อธิการบดีวิทยาลัยนครราชสีมา จำเลยที่ 1 ไม่ได้เดินทางมาศาลเพื่อฟังคำพิพากษา ศาลจึงพิจารณาเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาไปเป็นวันที่ 21 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.