ฮือฮา!โคราชค้นพบซากปลาโบราณสายพันธุ์ใหม่ของโลก
Post on: May 5, 2017
เปิดอ่าน: 1,300 ครั้ง
ฮือฮานักวิจัยค้นพบฟอสซิลปลายุ คจูแรสซิกพันธุ์ใหม่ของโลก อายุ 150 ล้านปีก่อน ผู้เชี่ยวชาญระบุปลากระดูกแข็งโ บราณสกุลใหม่และชนิดใหม่ของโลก ตั้งชื่อว่า โคราชอิกธิส จิบบัส
วันนี้ (5 พ.ค.) เวลา 10.30 น. ที่สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหิน มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา บ้านโกรกเดือนห้า ตำบลสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราช สีมา พร้อมด้วยนายสุเมธ อำภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรร มชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครร าชสีมา , รศ.ดร.วิเชียร ฝอยพิกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครร าชสีมา , ดร.อุทุมพร ดีศรี นักวิจัยมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และผศ.ดร.ประเทือง จินตสกุล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยไม้กลายเ ป็นหินฯ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการค้นพบ ฟอสซิลปลายุคจูแรสซิกพันธุ์ใหม่ ของโลก โคราชอิกธิส จิบบัส โดยได้ค้นพบฟอสซิลจากแหล่งบ้านโ นนสาวเอ้ ตำบลวังหมี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เป็นปลาน้ำจืดสกุลใหม่ และชนิดใหม่ของโลก อยู่ในยุคจูแรสซิกตอนปลายถึงครี เทเชียสตอนต้น หรืออายุประมาณ 150 ล้านปีก่อน ปลาชนิดนี้มีลักษณะเด่น คือ บริเวณหลังส่วนคอมีลักษณะเป็นโห นกชัดเจน
ทั้งนี้ที่มาของฟอสซิลปลาพันธุ์ ใหม่ของโลกพบอยู่ในก้อนหินที่แต กออกเป็น 2 ซีก จากการขุดแหล่งน้ำใกล้น้ำตกถ้ำ ขุนโจร พื้นที่ของหมู่บ้านโนนสาวเอ้ ตำบลวังหมี อำเภอวังน้ำเขียว ค้นพบเมื่อประมาณปี 2540 โดยชาวบ้าน คือ นายวิโรจน์ ปิ่นปก ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ จนกระทั่งต่อมาในปี 2557 นักวิจัยชาวไทย และผู้เชี่ยวชาญฟอสซิลปลาจากประ เทศสวิตเซอร์แลนด์ จึงได้ดำเนินการวิจัย จนถึงปัจจุบันจึงค้นพบว่าฟอสซิล ดังกล่าวเป็นฟอสซิลปลาพันธุ์ ใหม่ของโลก
สำหรับฟอสซิลปลาที่ค้นพบชนิดนี้ เป็นปลากระดูกแข็งโบราณสกุลใหม่ และชนิดใหม่ของโลก ถูกตั้งชื่อว่า โคราชอิกธิส จิบบัส (Khoratichthys gibbus โดย khorat=โคราช, ichthys=ปลากระดูกแข็ง, gibbus=โหนก) ซึ่งมีลักษณะขนาดรูปร่างยาว 36 เซนติเมตร กว้าง 12 เซนติเมตร และหนา 8 เซนติเมตร บริเวณคอแสดงลักษณะเป็นโหนกชัดเ จน จนเป็นที่มาของชื่อ จิบบัส ลำตัวปกคลุมด้วยเกล็ดรูปสี่เหลี่ ยม และมีเกล็ดตรงสันกลางหลังที่ยาว แหลมคล้ายหนาม มีกระดูกปิดส่วนแก้ม กระดูกที่ล้อมรอบเบ้าตามีน้อยชิ้ น และกระดูกปิดเหงือกมีรูปร่างเป็ นทรงสี่เหลี่ยม
ศ.ดร.ประเทือง จินตสกุล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหิน ฯ กล่าวถึงที่มาของฟอสซิลปลาว่า พบในก้อนหินที่แตกออกเป็น 2 ซีกจากการขุดแหล่งน้ำใกล้น้ำตกถ้ำขุนโจรในเขตคุ้มบ้านท่าเรือของหมู่บ้านโนนสาวเอ้ ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และชาวบ้าน นำโดย นายวิโรจน์ ปิ่นปก ได้นำก้อนหิน 2ก้อนดังกล่าวไปวางไว้ที่ศาลเจ้าพ่อน้ำตกถ้ำขุนโจรใกล้น้ำตกก่อนแจ้งให้หัวหน้าภาควิชาภูมิศาสตร์ สถาบันราชภัฏนครราชสีมา ขณะนั้น คณาจารย์ในภาควิชา จึงเดินทางไปตรวจสอบ และพบกับนายวิโรจน์ ปิ่นปก เมื่อวันที่ 31กรกฎาคม พ.ศ. 2540 จึงได้ยินการบอกเล่าถึงที่มาดังกล่าวแล้วข้างต้นและได้อนุเคราะห์มอบซากปลาให้กับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมานำไปอนุรักษ์ ศึกษาวิจัย เพื่อประโยชน์ในทางวิชาการสืบไป แต่ด้วยความขาดแคลนนักวิจัยฟอสซิลปลา เวลาจึงล่วงเลยมาถึง 17ปี จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2557จึงได้เริ่มมีการศึกษา โดย ดร.อุทุมพร ดีศรี ,ผศ.ดร.ประเทือง จินตสกุล และดร.ลิโอเนล คาวิน ผู้เชี่ยวชาญฟอสซิลปลาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารชั้นนำของโลกด้านบรรพชีวินวิทยา คือ Journal of Vertebrate Paleontology เมื่อปลายปี2559
ดร.อุทุมพร ดีศรี เปิดเผยว่า ปลาชนิดนี้เป็นปลากระดูกแข็งโบราณสกุลใหม่และชนิดใหม่ของโลก ตั้งชื่อว่า โคราชอิกธิส จิบบัส (Khoratichthys gibbus;โดย khorat=โคราช, ichthys=ปลากระดูกแข็ง, gibbus=โหนก) ซึ่งมีลักษณะดังนี้ ขนาดรูปร่างยาว 36 ซม. กว้าง 12 ซม. หนา 8 ซม. บริเวณคอแสดงลักษณะเป็นโหนกชัดเจน จนเป็นที่มาของชื่อ “จิบบัส” ลำตัวปกคลุมด้วยเกล็ดรูปสี่เหลี่ยมและมีเกล็ดตรงสันกลางหลังที่ยาวแหลมคล้ายหนาม มีกระดูกปิดส่วนแก้ม กระดูกที่ล้อมรอบเบ้าตา มีน้อยชิ้น และกระดูกปิดเหงือกมีรูปร่างเป็นทรงสี่เหลี่ยม ส่วนในการศึกษาถึงความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการของปลากระดูกแข็งที่มีก้านครีบในกลุ่มจิงกลีโมเดียน(กลุ่มปลามีเกล็ดสี่เหลี่ยม) ทั้งหมด 25 สกุล พบว่า ปลาสกุลโคราชอิกธิส แสดงลักษณะพื้นฐานที่สุดของปลาในอันดับ เลปิซอสติฟอร์ม (Lepisosteiformes) หรืออันดับอัลลิเกเตอร์การ์ (ปลาปากจระเข้) นั่นแสดงว่าเป็นพวกปลากลุ่มแรกๆ สุด หรือมีวิวัฒนาการต่ำสุดในอันดับปลาดังกล่าว นอกจากนี้ ปลาโคราชอิกธิส ยังเป็นหลักฐานที่แสดงถึงความหลากหลายของปลาจิงกลีโมเดียน ที่พบในหมวดหินภูกระดึงของไทยอีกด้วย และจากความหลากชนิดของปลาจิงกลีโมเดียนดังกล่าวซึ่งพบในสภาพแวดล้อมน้ำจืดของช่วงเวลาตั้งแต่กลางยุคจูแรสซิกถึงต้นยุคครีเทเชียสของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการครอบครองพื้นที่แหล่งน้ำจืดของปลาเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
- AIS จับมือ Gulf Binance จับเทรนด์สินทรัพย์ดิจิทัล มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า AIS รายเดือนเท่านั้นเปิด...
- ส่งล็อตแรก!่”กล้วยหอมทอง”โคราชส่งขายญี่ปุ่นแล้ว รมช.พาณิชย์สั่งทีมพาณิชย์เร่งดันส่งออกเพ...
- เซ็นทรัลโคราชคว้า 5 ดาวแห่งความยั่งยันด้านท่องเที่ยว Center of Life ศูนย์กลางการใช้ชีวิตได้อย่างบูรณ...
- นับถอยหลัง! งานมหกรรมกาแฟแห่งปี Esan Coffee Fair 2024ยกทัพร้านแบรนด์ดังมาเสิร์ฟชาวอีสาน...
- ปฏิบัติการ“ตัดขาแก๊งคอลจีนเทา”สะพายเป้ใส่เครื่องเกี่ยวสัญญาณ ตระเวณส่ง sms หลอกเหยื่อ...