29 April 2024


ให้คนแบบนี้มาขับ! ตำรวจจัดหนักตั้ง5ข้อหารถทัวร์มรณะ18ศพ ผงะคนขับสารภาพเสพยาบ้า

Post on: Mar 24, 2018
เปิดอ่าน: 1,398 ครั้ง
 
ผบช.ภ.3 สอบปากคำคนขับรถทัวร์มรณะ ตั้ง5ข้อหาหนักคนขับและเจ้าของรถยอมรับเสพยาบ้าก่อนขับกลับ ขณะที่ผู้บาดเจ็บประกาศไม่ขอนั่งรถ ชั้นชั่วชีวิต

ผบช ภ 3 สอบคนขับรถทัวร์มรณะ1เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (23 มีนาคม 2561) ที่ สภ.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วยพล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา , พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ รอง ผบก.ภ.นครราชสีมา หัวหน้าพนักงานสอบสวน , พ.ต.อ.สมร ทองกลาง ผกก.สอบสวน ตร.ภ.นครราชสีมา และ ผกก.สภ.อุดมทรัพย์ , ผกก.สภ.วังน้ำเขียว , ตำรวจทางหลวง , นายจรูญ จงไกรจักร นักวิชาการชำนาญการพิเศษขนส่ง จ.นครราชสีมา และทางแขวงการทางนครราชสีมา ที่ , หน่วยงานกองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมพนักงานสอบสวนได้มีการประชุมสรุปเหตุการณ์และข้อเท็จจริงในคดีรถบัสท่องเที่ยวเกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากตามข่าว โดยใช้เวลากว่า ชั่วโมง นายตำรวจทีาติดตามได้รับคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปร่วมสังเกตการณ์แต่อย่างใด ขอเป็นความลับ ซึ่งต่อมาทนแรงกดดันไม่ได้จึงอนุญาตให้เข้าบันทึกภาพได้เท่านั้น  

ผบช ภ 3 สอบคนขับรถทัวร์มรณะ2 ผบช ภ 3 สอบคนขับรถทัวร์มรณะ6 พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้เราได้ข้อเท็จจริงบางส่วนแล้วและการเตรียมมาตรการที่จะป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นอีก ซึ่งก็ได้ทราบถึงสาเหตุและเห็นข้อเท็จจริงกันแล้ว ส่วนคนขับรถขณะนี้รักษาตัวอยู่ รพ.มหาราชนครราชสีมา  ซึ่งผลการตรวจฉี่ของนายกฤษณะ ฑาชื่น คนขับรถบัสยืนยันแล้วว่า เป็นคนขับรถคันดังกล่าว ซึ่งมีสารยาเสพติด(ยาบ้า)อยู่ในปัสสาวะ และจากการตรวจสอบประวัติย้อนหลังพบว่าคนขับเคยถูกจับกุมคดีเสพยาบ้าหรือครอบครองยาบ้ามาแล้วถึง 5 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2545 ล่าสุดเดือนตุลาคม 2556 เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหา 3 ข้อหา คือ 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียชีวิต ไม่หยุดให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และ 2.เสพยาเสพติดขณะขับรถ โดยเขาให้การว่าเสพยาบ้าก่อนขับรถเพื่อไม่ให้ง่วง โดยคำให้การระบุว่า เสพมา เม็ด 3. ขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด

 ขณะที่ผลการตรวจสอบสภาพตัวรถทางเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดนครราชสีมาตรวจสอบเบื้องต้นแล้วพบว่า สภาพเบรกไม่ได้แตกหรือมีน้ำมันรั่วไหล จึงเป็นไปได้ว่าคนขับไม่ชำนาญเส้นทาง และขับรถเร็วเกินกว่าป้ายเตือนห้ามวิ่งเกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะจากการตรวจเช็คจีพีเอสพบว่าก่อนเกิดอุบัติเหตุรถคันดังกล่าววิ่งด้วยความเร็ว 83 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประกอบกับเส้นทางที่เกิดเหตุเป็นทางลงเขาลากยาว 6 กิโลเมตร จึงทำให้คนขับเหยียบเบรกต่อเนื่องจนลมในปั้มเบรกหมด ทำให้รถเบรกไม่อยู่ทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นมา โดยเราได้ตัวคนขับมาเพียงคนเดียว ส่วนผู้ช่วยคนขับยังไม่พบตัว 

พล ต ท ดำรงศักดิ์ ผบช ภ 3-1“จากการสอบสวนทุกอย่างทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาไปเรื่องการเสพยาเสพติด(ยาบ้า)ในขณะขับรถ และ ขับรถประมาททำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสแล้วยังหลบหนีไม่มาช่วย และฝ่าฝืนเครื่องจำกัดความเร็วของกรมทางหลวง ซึ่งระบุไว้ว่า 60 กม/ชม. โดยรถคันนี้มี GPS ทางขนส่งตรวจสอบเบื้องต้นใช้ความเร็วประมาณ 83 กม./ชม. ส่วนสาเหตุของระบบรถขัดข้องหรือประมาทนั้นจากการพูดคุยกับหน่วยงานทุกส่วนแวยังไม่มั่นใจเรื่องสภาพเป็นรอยเบรกหรือรอยครูด แต่ตรวจสอบแล้วสภาพเบรกไม่มีรอยรั่วจากน้ำมันก็แสดงว่าเบรกไม่แตก แน่นอนอาจจะเกิดจากรถทางลงเขาชันเมื่อใช้ลมเบรกมากเกินไปลมอาจจะหมดทำให้ระบบเบรกใช้การไม่ได้เต็มที่ และระยะทางลงเขาถึงจุดเกิดเหตุ กม. ถ้าคนขับไม่มีความชำนาญและไม่ได้ใช้เกียร์ต่ำแล้วใช้เบรกอย่างเดียวมันทำให้ลมหมดทำให้สภาพเบรกแข็งตัวทำงานไม่ได้เต็มที่” พล.ต.ท.ดำรงค์ กล่าว 

พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์  กล่าวอีกว่า ในส่วนของเจ้าของรถนั้นจากการสอบถามทางขนส่งแล้วตามกฎหมายต้องตรวจสภาพปีละ ครั้ง แต่คันนี้ผ่านไปกว่าปีเศษแล้วยังไม่ได้ไปตรวจซ้ำ ฉะนั้นเรื่องตรวจสอบสภาพรถถือว่าไม่เป็นไปตามข้อบังคับของขนส่ง รวมทั้งเรื่องของการปล่อยให้มีการเสพยาบ้าแล้วมาขับรถมันมีกฎหมายขนส่งระบุไว้ชัดเจนว่า การยินยอมหรือให้มีการเสพยาบ้าแล้วขับรถหรือการที่ไม่ดูแลให้ดีมันจะเป็นความผิด อันนี้เราจต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำไปสู่การแจ้งข้อหากับผู้ประกอบการด้วยใน2ข้อหานี้อีกครั้งหนึ่ง ส่วนคนขับจะสำนึกผิดจะขอโทษหรือไปขอขมาผู้เสียชีวิตนั้นตอนนี้คนขับยังอยู่โรงพยาบาลยังไม่ได้พูดคุยรายละเอียดขนาดนั้น ผบช ภ 3 สอบคนขับรถทัวร์มรณะ3

 ส่วนจุดเกิดเหตุหลังจากนี้จะติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขับขี่รถทุกชนิดใช้เกียรติต่ำ และจะมีการติดตั้งป้ายเตือนให้เห็นชัดเจนมากขึ้น และมอบหมายให้ตำรวจทางหลวงและตำรวจท้องที่จับความเร็วบริเวณจุดเสี่ยงให้มากและถี่ขึ้น เพราะความเร็วเป็นสิ่งสำคัญที่จะลดอุบัติเหตุได้ดี และการติดตั้งไฟกระพริบเตือนก่อนรถจะเข้าทางโค้ง โดยเฉพาะโค้งอันตราย การติดตั้งแสงสว่างเพิ่มเติม และทางกรมทางหลวงจะมีการต่อแท่งแบริเอ่อร์ให้สูงขึ้นทุกจุด  

นายจรูญ จงไกรจักร นักวิชาการชำนาญการพิเศษขนส่ง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ผู้ประกอบการรายนี้ ชื่อนางทัน เลิศสหพันธ์ มีรถให้บริการ คัน และคันที่ประสบเหตุขนส่งได้สั่งเพิกถอนการจดทะเบียนไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้(22 มี.ค.) ส่วนอีก คันที่เหลือนายทะเบียนขนส่ง จ.กาฬสินธุ์สั่งให้นำรถไปตรวจสภาพอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งได้เรียกผู้ประกอบการไปพบแล้ว มีเพียงคันนี้คันเดียวที่ไม่ไปตรวจสภาพตามวงรอบที่จะเป็น

ผบช ภ 3 สอบคนขับรถทัวร์มรณะ5

ส่วนผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บได้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จำนวน ราย ในจำนวนนี้มีเด็ก รายอาการยังสาหัสต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ พยาบาลอย่างใกล้ชิด โดยมีผู้ปกครองคอยดูแลอยู่ข้างเตียงลูกตลอดเวลา ในจำนวนนี้มี คนที่พอพูดคุยได้ คือนางรัตนาภรณ์ ทุมเกสร และ นายธนากร สิงห์โห อายุ 56 ปี นอนรักษาอาการบาดเจ็บ เล่านาทีชีวิตให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุรถคันนั้นวิ่งส่ายไปส่ายมาตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงลงเขาชันและมีทางโค้ง ตนอยู่ชั้น ของรถบัสคันดังกล่าว  จึงได้ลงไปทักทวงคนขับรถ ซึ่งเขาบอกว่าคันเร่งมันค้าง ตนบอกปลดคันเร่งแล้วเปิดไฟกระพริบและใส่เกียร์ ให้รถชะลอความเร็วลง จากนั้นคนขับรถก็โยกคันเกียร์ให้ตนดูแล้วบอกว่า ใส่เกียร์ไม่เข้า ตนแหงนมองทะลุกระจกหน้ารถไปข้างหน้า จากนั้นตนก็วิ่งขึ้นไปชั้น ไปหาแฟนตนเองแล้วจับแฟนดึงตัวแล้วกอดแฟนไว้แน่นลงนอนกับพื้นชั้น แล้วเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นรวดเร็วมาก ขณะเกิดเหตุตนรู้สึกกลัวมาก แต่สติยังดีอยู่  ก่อนยกมือไหว้ขอบคุณที่รอดนาทีได้หวุดหวิด พร้อมกับกล่าวตามว่า จากนี้ไปตนจะไม่ขอนั่งรถบัส รถทัวร์ ชั้นไปตลอดชีวิตเลยผบช ภ 3 สอบคนขับรถทัวร์มรณะ4