29 April 2024


(ชมคลิป)แฉเอง! ประธานสถานศึกษาโคราชตอกย้ำงาบงบอาหารเด็กมีจริง-โกงส่งต่อรุ่นสู่รุ่น ท้าป.ป.ช.ลากคอคนผิด

Post on: Jul 11, 2019
เปิดอ่าน: 484 ครั้ง

 

แฉเอง! ประธานสถานศึกษาโคราชตอกย้ำงาบงบอาหารเด็กมีจริง-โกงส่งต่อรุ่นสู่รุ่น ท้าป.ป.ช.ลากคอคนผิด

ประธานสถานศึกษาโคราชออกโรงแฉเอง ยันงาบงบอาหารกลางวันเด็กนักเรียนมีจริงในวงการศึกษาไทย โดยเฉพาะร.ร.ขนาดใหญ่ได้เงินก้อนโต กลายเป็นวัฒนธรรมบาปที่ผู้บริหารโรงเรียนโกงส่งต่อรุ่นสู่รุ่นมาช้านาน ท้า ป.ป.ช.ลากคอคนผิดไม่ได้

วันนี้ (10 ก.ค.) ความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา หลังจาก ป.ป.ช.นครราชสีมา ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบโรงเรียนประถมศึกษาหลายแห่งพบมีการทุจริตชัดเจน 4 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียนขนาดใหญ่ชื่อดังใน อ.เมืองนครราชสีมา 2 แห่ง อีก 2 แห่ง อยู่ในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว และ อ.ด่านขุนทด ซึ่งกำลังเป็นที่จับตามองของหลายฝ่ายถึงการทำงานของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ตามที่นำเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่อง นั้น


ล่าสุด ผศ.ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาราชภัฏนครราชสีมา ในฐานะประธานกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนเมืองนครราชสีมา , โรงเรียนสวนหม่อน และโรงเรียนสุขานารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงการทุจริตโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียน ว่า จากประสบการณ์ที่ตนเคยมีความใกล้ชิด ทั้งในฐานะที่เป็นนักวิชาการด้านศึกษาศาสตร์ ครุศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเป็นประธานกรรมการสถานศึกษาหลายแห่ง และเคยเป็นผู้บริหารโรงเรียนมาก่อน ยอมรับว่า เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นจริง แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับครูด้วยเพราะไม่ได้มีอย่างนี้เป็นส่วนใหญ่ เป็นเพียงส่วนน้อยของสถานศึกษาที่มีการส่อว่าจะทุจริตหรือการทุจริตที่เกิดขึ้นในประเทศถือว่าเป็นส่วนน้อย และต้องให้ความเป็นธรรมกับ จ.นครราชสีมาด้วย เพราะจริงๆ เรื่องอย่างนี้ไม่ได้มีเฉพาะที่ จ.นครราชสีมาเพียงจังหวัดเดียว เพียงแต่ว่า ป.ป.ช.เองได้มาตรวจสอบตรงนี้แล้วอาจมีข้อมูลให้ข่าวแก่สื่อมวลชนแล้วมีการเอาไปแชร์หรือไปส่งข่าวต่อกันจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่สังคมจับตามอง
ทั้งนี้เรื่องของโครงการอาหารกลางวันสำหรับเด็กเรียนเป็นเรื่องที่มีความสลับซับซ้อนพอสมควรในแง่ของการที่จะไปกล่าวหาว่าทุจริต เพราะกระบวนการจัดสรรงบประมาณเป็นการจัดสรรตามรายหัว เด็กบางโรงเรียนมีนักเรียนอยู่แค่ 40-50 คนหัวละ 20 บาท เงินที่ได้มาไม่กี่บาท โรงเรียนเหล่านี้ต้องเห็นใจว่า จะไปจ้างแม่ครัวมาทำไม่ได้ ครูต้องตื่นแต่เช้าไปจับจ่ายวัตถุดิบที่จะมาทำอาหาร ถ้าถามว่าภาพลักษณ์ที่เกิดขึ้นว่าครูทุจริตโครงการอาหารกลางวันก็นึกถึงครูและโรงเรียนขนาดเล็กเหล่านี้บ้างและเป็นโรงเรียนส่วนใหญ่ของประเทศที่ครูทำแทบทุกอย่าง ไม่ใช่แค่โครงการอาหารกลางวันอย่างเดียว แต่ยังมีโครงการอื่นอีกมากมาย แต่ภาพที่เกิดขึ้นมันกระทบครูไปเสียทั้งหมด
ส่วนที่บอกว่ามีการทุจริตนั้น ขอย้ำว่าโอกาสที่จะเกิดการทุจริตขึ้นมันเกิดขึ้นที่โรงเรียนขนาดใหญ่ด้วยเหตุผลง่ายๆ เช่น โรงเรียนที่มีเด็ก 3,000 คน มีงบจำนวนมากจากค่าอาหารกลางวันหัวละ 20 หากโรงเรียนใจไม่แข็งพอเห็นเงินก้อนใหญ่ก็มักเกิดความโลภ 1.เข้ากระเป๋าตัวเองมีแน่นอน และที่สอบกันยังไม่เสร็จก็มีในหลายแห่ง ตนคิดว่าอยู่ที่ ป.ป.ช.สอบทำอะไรอยู่ก็ต้องดูด้วย 2. คิดในทางที่จะเอาไปใช้ประโยชน์ หรือการใช้เทคนิคในการบริหารเงิน เช่น เงินค่าอาหารกลางวันจ่ายไม่ต้องครบ แต่เบิกตังค์ครบ ส่วนที่เหลือไปไหน เอาไปใช้ประโยชน์ทางการจัดการศึกษาอย่างอื่นก็มี คือ อาจใช้ในการพาเด็กไปประกวด หรือไปแข่งขันกิจกรรมต่างๆของโรงเรียน บางโรงเรียนเหลือมาก เพราะเด็กมีมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นอย่างนี้ทุกโรงเรียน

ฉะนั้นมันจึงมีโอกาสรั่วไหลไปยังกระเป๋าผู้บริหารเองหรือนำไปใช้ทางการศึกษาแบบอื่นก็ได้ ซึ่งไม่ถูกต้องแน่นอน แต่ถามว่าผู้บริหารรุ่นพี่ ผู้บริหารคนก่อนๆ ก็ทำอย่างนี้ไว้จนกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ถูกแล้วคิดว่าตัวเองทำถูก เพราะไม่ได้เอาไปใช้อย่างอื่นแต่ใช้วงการครู แต่อาจมีบางส่วนเข้ากระเป๋าตัวเอง ฉะนั้นอยากให้จับตาโรงเรียนขนาดใหญ่ และขนาดกลาง มีนักเรียนตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไป

“ ขอย้ำการทุจริตอาหารกลางวันเด็กเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในวงการศึกษา แต่ส่วนน้อย ซึ่งคนเหล่านี้ต้องถูกปราบปรามต้องตรวจสอบเอาผิด และระมัดระวังกันไว้ด้วย” ผศ.ดร.อดิศร กล่าว

ต่อข้อถามที่ว่า เมื่อรู้ว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำไมนิ่งดูดาย หรือไม่เอาผิดกัน ผศ.ดร.อดิศร กล่าวว่า “ ผมขอท้า ป.ป.ช.ในเรื่องนี้ว่า ป.ป.ช.ทำอะไรไม่ได้หรอก เพราะการตรวจสอบขึ้นอยู่กับวัตถุพยาน เมื่อตัวเลขการจ่ายเงิน รับเงิน ตามบิลตรงกันทุกอย่างก็ไม่น่ามีปัญหา และเรื่องนี้มันเกี่ยวกันกับอดีตผู้บริหารอีกหลายรุ่นที่ทำกันจนกลายวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ถูกต้อง ติดต่อกันมานานมาก ไม่ใช่เพิ่งมีหรือเพิ่งเกิดขึ้นตอนนี้เท่านั้น และไม่รู้กี่รุ่นมาแล้ว หลายเรื่องที่ ป.ป.ช.ทำไม่สำเร็จทั้งเรื่องโครงการสร้างสนามฟุตซอล ที่เกี่ยวข้องกับครูโดยตรงก็ยังไม่เห็นลงโทษใครเป็นจริงจัง”