ไม่จบง่ายแน่! คืบหน้าล่อซื้อกระทงลายการ์ตูนละเมิดลิขสิทธิ์ ตร.โคราชยันไม่มีส่วนได้เสีย เร่งตรวจสอบตัวแทนนายหน้า
คืบหน้าล่อซื้อกระทงลายการ์ตูนละเมิดลิขสิทธิ์ ตร.โคราชยันไม่มีส่วนได้เสีย เร่งตรวจสอบตัวแทนนายหน้าเก๋หรือไม่ ชี้หากผู้เสียหายต้องการแจ้งความกลับพร้อมดำเนินคดี
จากกรณีที่ นายประจักษ์ โพธิ์ผล นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา เข้าจับกุมเยาวชนวัย 15 ปี ขณะส่งมอบกระทงอาหารปลาพิมพ์ลายการ์ตูนการ์ฟิลด์ และรีลัคคุมะ ซึ่งทำการล่อซื้อผ่านเฟซบุ๊ก โดยนายประจักษ์เรียกค่าเสียหาย 50,000 บาท แต่ได้เจรจากันเหลือ 5,000 บาท นอกจากนี้ยังพบนักศึกษาวัย 22 ปี ถูกล่อซื้อกระทงจากขนมอาหารปลา ลายการ์ตูนการ์ฟิลด์ แล้วถูกจับกุมในลักษณะเดียวกัน โดยเรียกค่าเสียหาย 50,000 บาท แต่ครอบครัวต่อรองเหลือ 10,000 บาท แลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี
กระทั่งบริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะตัวแทนตัวแทนลิขสิทธิ์ ของบริษัท San-x เจ้าของลิขสิทธิ์ลายการ์ตูนรีลัคคุมะ ชี้แจงว่าไม่ได้มอบหมายให้ผู้ใดทำการจับลิขสิทธิ์ผิดกฎหมายแต่อย่างใด ขณะที่ นายธวัชชัย ไทยเขียว อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ชี้ว่าในเมื่อบริษัทฯ ไม่ได้มอบหมายให้ผู้ใดทำการจับลิขสิทธิ์ แสดงว่าผู้ที่สั่งของล่อซื้อเป็นมิจฉาชีพ ขอให้ตำรวจจัดการจับดำเนินคดีให้เป็นตัวอย่าง ทางด้าน กรมทรัพย์สินทางปัญญายืนยันเช่นกันว่า กรณีตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์สั่งเด็กหญิงทำกระทงลายการ์ตูนดังแล้วล่อซื้อจับกุมเรียกค่ายอมความไม่ถือว่าเด็กมีความผิด เหตุไม่มีเจตนาทำกระทงละเมิดลิขสิทธิ์แต่แรก เผยสามารถฟ้องกลับได้เนื่องจากมีการข่มขู่กรรโชกทรัพย์ให้เด็กหญิงชดเชยค่าเสียหาย นั้น
ล่าสุดเย็นวันนี้ (5 พฤศจิกายน 2562) พันตำรวจเอก คเชนท์ เสตะปุตตะ ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังจากบริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนที่แท้จริง ได้ทำหนังสือชี้แจงมาว่า ทางบริษัทฯ ในฐานะตัวแทนลิขสิทธิ์ ของบริษัท San-X ประเทศญี่ปุ่น ไม่ได้มอบหมายให้ผู้ใดทำการจับลิขสิทธิ์ผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่เมื่อตรวจสอบจากหลักฐานใบรับรองการเป็นตัวแทนบริษัทที่นายประจักษ์ โพธิผล ผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัท พอส์ อิงค์ จำกัด และบริษัท ซาน-เอกซ์ จำกัด นำมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า เอกสารมีการระบุชื่อบริษัทชัดเจน ซึ่งอาจเป็นบริษัทเครือข่ายของบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์รายใหญ่ ซึ่งตำรวจขอเวลาในการตรวจสอบว่า เอกสารดังกล่าวเป็นของจริงหรือไม่ และนายประจักษ์เป็นตัวแทนลิขสิทธิ์จริงหรือไม่ ซึ่งคาดว่าภายในวันพรุ่งนี้จะทราบรายละเอียดทั้งหมด
ทั้งนี้หากเป็นเอกสารปลอม พนักงานสอบสวนก็จะแจ้งข้อหาฐานแจ้งความเท็จ และใช้เอกสารปลอม แต่หากเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ที่ได้รับมอบอำนาจจริงก็คงจะจบขั้นตอนในส่วนนี้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย และตำรวจก็ปฏิบัติไปตามหน้าที่ และยืนยันว่าตำรวจไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเงินค่าเสียหาย ที่คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายเจรจาไกล่เกลี่ยตกลงกันเองแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามหากเด็กสาววัย 15 ปี ผู้เสียหายหรือผู้เสียหายรายอื่นๆ ต้องการเข้าแจ้งความเอาผิดกับตัวแทนลิขสิทธิ์ ในความผิดฐานความผิดกรรโชกทรัพย์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พร้อมรับดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ตนเองก็ไม่เห็นด้วยกับการล่อซื้อจับกุมกฎหมายลิขสิทธิ์ที่ไม่เป็นธรรม เพราะตนเองก็เคยประกอบธุรกิจร้านอาหาร และก็เคยถูกล่อซื้อจับกุมลิขสิทธิ์เพลงมาแล้ว ซึ่งตนก็รู้สึกเหมือนกับโดนเอาเปรียบเช่นเดียวกัน
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
- เอไอเอส จับมือ กสทช. ดูแลผู้พิการรอบด้าน ตอกย้ำดิจิทัลเป็นหัวใจการสร้างความเท่าเทียมแก่ทุกกลุ่ม...
- AIS จับมือ Gulf Binance จับเทรนด์สินทรัพย์ดิจิทัล มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า AIS รายเดือนเท่านั้นเปิด...
- ส่งล็อตแรก!่”กล้วยหอมทอง”โคราชส่งขายญี่ปุ่นแล้ว รมช.พาณิชย์สั่งทีมพาณิชย์เร่งดันส่งออกเพ...
- เซ็นทรัลโคราชคว้า 5 ดาวแห่งความยั่งยันด้านท่องเที่ยว Center of Life ศูนย์กลางการใช้ชีวิตได้อย่างบูรณ...
- นับถอยหลัง! งานมหกรรมกาแฟแห่งปี Esan Coffee Fair 2024ยกทัพร้านแบรนด์ดังมาเสิร์ฟชาวอีสาน...