3 May 2024


แห่แจ้งความ! เหยื่อแก๊งล่อซื้อจับสินค้าลายการ์ตูนรีดทรัพย์เข้าแจ้งความกับ ตร.โคราชแล้ว 38 ราย

Post on: Nov 8, 2019
เปิดอ่าน: 369 ครั้ง

 

เหยื่อแก๊งล่อซื้อจับสินค้าลายการ์ตูนรีดทรัพย์เข้าแจ้งความกับ ตร.โคราชแล้ว 38 ราย   “รอง ผบ.ตร.” ย้ำให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายเป็นรายบุคคลอย่างละเอียดและชัดเจนเพื่อรับแจ้งความนำไปสู่การดำเนินคดี เผยตั้งกก.สอบตร.มีเอี่ยวลั่นฟันไม่เลี้ยง  ระบุบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ยันไม่ได้มอบให้เรียกเงินเหยื่อและต้องแจ้งทุกครั้งก่อนดำเนินการใดๆ ซัด“ประจักษ์” แหกกฎข้อตกลง

วันนี้ ( 7 พ.ย. ) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ นายประจักษ์ โพธิ์ผล กับพวก  อ้างเป็นตัวแทนบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา เข้าจับกุมเยาวชนวัย 15 ปี ขณะส่งมอบกระทงอาหารปลาพิมพ์ลายการ์ตูนการ์ฟิลด์ และ รีลัคคุมะ ซึ่งทำการล่อซื้อผ่านเฟซบุ๊ก โดยเรียกค่าเสียหาย 50,000 บาท แต่ได้เจรจากันเหลือ 5,000 บาท นอกจากนี้ยังพบเหยื่อถูกล่อซื้อสินค้าลายการ์ตูน แล้วถูกจับกุมและเรียกค่าเสียหายแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันอีกหลายราย และ เมื่อวานนี้ (6 พ.ย.) ได้รวมตัวกันแสดงตัวเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้อ้างเป็นตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์ดังกล่าว ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีเพียงเยาวชน 15 ปี ที่ได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเป็นรายแรกไปแล้ว นั้น

ล่าสุดวันนี้ เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.วิระชัย  ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( รอง ผบ.ตร.) ได้เดินทางมาอำนวยการสั่งการในการรับแจ้งความร้องทุกข์และสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตนเอง ซึ่งในวันนี้ มีผู้ได้รับความเสียหายเดินทางเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนรวมจำนวน 38 ราย โดยมีสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมามาร่วมในการสอบปากคำ ขณะที่ทางตำรวจได้ระดมพนักงานสอบสวน จัดห้องตั้งโต๊ะ เพื่อทำการสอบปากคำผู้ที่ได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าวเป็นรายบุคคล เพื่อพิจารณารับแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นรายกรณีๆ ไป

ทั้งนี้ พล.ต.อ.วิระชัยได้กล่าวย้ำ กับผู้เสียหายทุกคนว่า ขอให้ทุกคน ให้ปากคำแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้วยข้อเท็จจริง ที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะให้เน้น เรื่อง การดำเนินการในการผลิต สินค้าลายการ์ตูนที่ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว ว่า เป็นการ สั่งซื้อเพื่อให้ผู้เสียหายผลิตและนำมาส่งหรือไม่ หรือผู้เสียหายมีการผลิตสินค้าที่เป็นรูปลายการ์ตูนละเมิดลิขสิทธิ์ไว้ก่อนแล้วและนำออกมาจำหน่ายหรือไม่ เพื่อให้เกิดความกระจ่าง และให้มีการระบุ วันเวลาสถานที่ ที่มีการตกลง จ่ายค่าเสียหายให้ชัดเจน รวมถึงพนักงานสอบสวนที่ดำเนินการ แจ้งความ ในวันดังกล่าวด้วย

พล.ต.อ.วิระชัย ชี้แจง ต่อสื่อมวลชนว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสอบถามไปยัง เจ้าของลิขสิทธิ์ ซึ่งรูปการ์ตูนการ์ฟิวด์ เป็นลิขสิทธิ์ ของ บริษัท พอส์-อิงค์ จำกัด สหรัฐอเมริกา และ รูปการ์ตูน รีลัคคุมะ เป็นลิขสิทธิ์ ของ บริษัทซาน-เอ็กซ์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น โดยทั้ง 2 บริษัท ได้มอบให้บริษัท เวอริเซ็ค จำกัดโดยนายภควรรษก์ ศรีสำราญ เป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ และ นายภควรรษก์ ได้มอบอำนาจให้ นายประจักษ์  โพธิผล เป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ต่อ

ส่วนกรณีที่ นายประจักษ์ ดำเนินการล่อซื้อสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และเรียกรับเงินดังกล่าว นั้น ทางนายริชาร์ด ผู้บริหาร บริษัท พอส์-อิงค์ ได้ยืนยันว่า ทางบริษัทไม่มีนโยบายในการที่จะให้ตัวแทนลิขสิทธิ์ออกไปเรียกรับค่าเสียหายแต่อย่างใดและหากพบการละเมิดลิขสิทธิ์รูปการ์ตูนดังกล่าวของบริษัทจริงให้มีการแจ้งต่อบริษัทก่อนที่จะดำเนินการใดๆทั้งสิ้น ซึ่งกรณีการเข้าไปล่อซื้อกระทงลายรูปการ์ตูนละเมิดลิขสิทธิ์จากเด็กหญิงอายุ 15 ปีชาวจังหวัดนครราชสีมานั้นทางบริษัทยืนยันว่า นายประจักษ์ ไม่ได้แจ้งให้ทางบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ทราบก่อน ถือเป็นการผิดกฎและข้อตกลงของทางบริษัทด้วย

ขณะเดียวกันทางตำรวจจะทำการสอบสวนไปถึงกรณีอื่นๆ และขอตรวจสอบใบอนุญาต การเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ ของนายประจักษ์ ว่าสิ้นอายุ หรือไม่

ขณะที่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องแล้วว่า มีใครเกี่ยวข้องหรือมีส่วนสนับสนุนกับกลุ่มตัวแทนลิขสิทธิ์หรือไม่ หากพบว่าตำรวจนายใดมีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาด พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวในตอนท้าย

ทางด้าน นายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกลุ่มผู้เสียหายทยอยเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนแล้ว ล่าสุดมียอดผู้เสียหายที่ถูกจับกุมละเมิดลิขสิทธิ์การ์ตูนดังกล่าวมาให้รายละเอียดกับทนายความ จำนวน 36-38  คน มูลค่าที่ถูกเรียกค่าเสียหายไปรวมกว่า 700,000 บาท ทั้งนี้หากผู้เสียหายรายใดต้องการปรึกษาด้านคดีหรือต้องการเข้าแจ้งความ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือมาได้ที่สภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา