28 April 2024


เปิดคลิป! “บิ๊กโจ๊ก” นำกำลังบุกจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ฯ ตลาดเซฟวันกลางเมืองโคราชได้ของกลางนับหมื่นค่ากว่า 25 ล.

Post on: Oct 9, 2018
เปิดอ่าน: 1,898 ครั้ง

 

สตม.สนธิกำลังตำรวจภูธรภาค 3 บุกทลายแหล่งจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า  ตลาดเซฟวัน  ตลาดใหญ่กลางเมืองโคราช ได้ของกลางกว่า 1.3 หมื่นชิ้น ผู้ต้องหา 11 ราย มูลค่าเสียหายกว่า 25 ล้านบาท  เตือนคนขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ฯ ผ่านออนไลน์ระวังตัว

วันนี้ (9 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา  พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล  หรือ บิ๊กโจ๊ก รักษาราชการ ผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.)พร้อม พล.ต.ต ฐากูร  นัทฐีศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3  พล.ต.ต วัชรินทร์  บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา (ผบก.จ.นม.)  นำกำลังตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สนธิกำลังกับตำรวจภูธรภาค 3 และภูธร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 100 นาย เข้าปฏิบัติการกวาดล้างสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า  ที่ ตลาดเซฟวัน ตลาดใหญ่กลางเมืองโคราช หลังสืบสวนทางออนไลน์พบข้อมูลว่า มีการจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้าของสหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น จำนวนมาก

โดยผลการระดมกวาดล้างครั้งนี้ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 20 จุด สามารถจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้าได้ผู้ต้องหา 11 ราย ประเมินมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 25 ล้านบาท ตรวจยึดสินค้ากว่า 13,690 ชิ้น โดยมีตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์แบรนด์ต่าง ๆ มาตรวจสอบด้วย   เช่น นาฬิกาแบรนด์เนม Casio, G-Shock ฯลฯ ,กระเป๋าแบรนด์เนม หลุยส์ วิตตอง, พราด้า, กุชชี่ ฯลฯ ,เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เสื้อ กางเกง รองเท้า เข็มขัด แว่นตา หลากหลายยี่ห้อ เช่น Rayban, Oakley, Nike, Adidas, Puma, Leis, Fila ฯลฯ และสินค้าอื่นๆ อีกจำนวนมาก จึงได้แจ้งข้อหา “เสนอจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร” ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 108 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับพล.ต.ต.สุรเชษฐ์   กล่าวว่า รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ศปอส.ตร.) โดยมุ่งผลการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ โดยร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องออกปฏิบัติการระดมกวาดล้างสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้าตามสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ โดยเน้นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้าของประเทศ สหรัฐอเมริกา ตลอดจนที่ปรากฏในเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ได้แก่ เฟสบุ๊ก อินสตาแกรม ไลน์ ฯลฯ และข้อมูลที่ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจากการสืบสวนทางออนไลน์ พบข้อมูลตลาดเซฟวัน โคราช ซึ่งเป็นตลาดนัดกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศนิยมมาจับจ่ายซื้อสินค้า จึงได้วางแผนจัดกำลังนอกเครื่องแบบลงพื้นที่หาข้อมูลทางลับ  เพื่อกำหนดเป้าหมายส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในโซนพาวิลเลี่ยน

อย่างไรก็ตามฝากถึงผู้ที่ยังดำเนินการผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย สินค้าที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด การประกาศขายทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ เฟสบุ๊ก อินสตาแกรม หากยังดำเนินอยู่เจ้าหน้าที่จะดำเนินการจับกุมดำเนินคดีขยายผลถึงนายทุน ตลอดจนใช้มาตรการยึดทรัพย์ จากความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและ ปราบปรามฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (13) และมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 -10 ปี หรือปรับตั้งแต่ สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเป็นความผิดมูลฐานตาม กฎหมายฟอกเงิน เพื่อให้ปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศไทยหมดไป  พล.ต.ต สุรเชษฐ์ กล่าวในที่สุด