by

โคราชลุยสุ่มตรวจขายหน้ากากอนามัย รับ 40,000 ชิ้นกระจาย 32 อำเภอ แต่ยังไม่เพียงพอ เตรียมผลิตหน้ากากผ้าให้ประชาชนใช้ ด้านพาณิชย์ยอมรับมีคนร้องเรียนมาก แต่ไปตรวจไม่พบ

วันนี้ (11 มี.ค.) ที่ร้านขายยา “หมอยาใจดี” เลขที่  1014 หมู่ 13 ถ.รัตนภิธาน ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นางปิยะฉัตร ดินสว่าง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายศารุมภ์ โหม่งสูงเนิน พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา และ พันโทวรัตถ์ รุ่งกลาง หน.กบค.กอ.รมน.จ.นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ร่วมกันลงพื้นที่ออกตรวจติดตามสถานการณ์การจำหน่ายหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์เจล โดยมีประชาชนจำนวนมากมารถต่อคิดซื้อหน้ากากอนามัยยาวเหยียดล้นร้านออกไปถึงถนนหน้าร้าน

นางปิยะฉัตร  อินสว่าง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จังหวัดนครราชสีมาได้รับหน้ากากมาจำหน่ายให้แก่ประชาชนแล้วจำนวน 40,000 ชิ้น โดยล่าสุดวันนี้ (11 มี.ค.) ได้รับมาจำนวน 4,000 ชิ้น กระจายไปยังร้านธงฟ้าที่อยู่ในเครือข่ายกระจายไปตามอำเภอต่างๆ ทั้ง 32 อำเภอจำนวนกวา 100 ร้านค้า  ซี่งหน้ากากดังกล่าว เป็นหน้ากากที่ใช้ในทางการแพทย์ แต่ทางจังหวัดได้รับงบประมาณของแระทรวงมหาดไทย ได้ให้กลุ่มแม่บ้านเข้ามาผลิตหน้ากากอนามัยผ้า ขึ้นเพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนได้ใช้อย่างทั่วถึง โดยจะเริ่มปฏิบัติงานในการผลิตหน้ากากพร้อมกันในวันที่ 13 มี.ค.นี้เป็นต้นไป  อย่างไรก็ตามต้องการความร่วมมือกับประชนชน  ให้ป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากาก อาจจะผลิตหน้ากากผ้าขึ้นมาเองก็ได้เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรค และดูแลร่างกายให้แข็งแรง

ด้านนายศารุมภ์  โหม่งสูงเนิน พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา  กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเข้ามาจำนวนมาก ทั้งเรื่องของการขาดแคลนหน้ากากและการจำหน่ายหน้ากากเกินกว่าราคาที่กำหนด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบแล้วยังไม่พบการกระทำความผิดแต่อย่างใด   ซึ่งหน้ากากล็อตใหม่จำนวน 4,000 ชิ้นนี้ ได้กระจายจำหน่ายตามร้านธงฟ้า ไปทั้งหมดแล้ว ไม่กี่ชั่วโมงหน้ากากก็หมด โดยจำกัดปริมาณการซื้อ 1 คนต่อ 4 ชิ้น ไม่มีปรับราคาสูงขึ้นแต่อย่างใด สำหรับห้างร้านที่มีการจำหน่ายในราคาส่ง ได้มีมาตรการควบคุมการจำหน่ายสินค้าอย่างเข้มงวดตามนโยบายกระทรวงพาณิชย์ ไม่ให้มีการฉวยโอกาสกักตุนสินค้า ขณะนี้หน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์เจล ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ยังมีจำหน่ายอย่างเพียงพอ ไม่ถือเป็นสินค้าขาดแคลน เจ้าหน้าที่ได้กำชับผู้ประกอบการให้ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าอย่างชัดเจน ฝ่าฝืนปรับ 1 หมื่นบาท และไม่ให้ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าหรือกักตุนสินค้า หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท ประชาชนผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถร้องเรียนได้ที่ สายด่วน