by

สคร.9 เผยไข้เลือดออกระบาดหนัก 4 จังหวัดอีสานล่างป่วยแล้ว 8,345 ราย ตายแล้ว 8 รายเพิ่มขึ้น  2 เท่าตัว  โคราชมากสุดป่วยเกือบ 4 พันรายตายแล้ว 5 ราย รองลงมาคือสุรินทร์   พบกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานป่วยมากสุด เด็กลดลง เหตุพฤติกรรมเปลี่ยน เตือนประชาชนป้องกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย

วันนี้ (5 ต.ค.) นพ.ธีรวัฒน์ วลัยเสถียร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา หรือ สคร.9    กล่าวถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออกว่า ในปีนี้มีการระบาดของโรคไข้เลือดออกทั่วประเทศประมาณ 50,000 รายแล้ว ซึ่งมากกว่าปี 2557 ถึง 2 เท่าตัว คาดสิ้นปียอดป่วยอาจพุ่งถึง 7 หมื่นราย สาเหตุร้อยละ 80 เกิดจากถูกยุงลายที่อยู่ในบ้านกัด ที่เหลือเป็นยุงลายที่อยู่ตามสวนโดยในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง ประกอบไปด้วย นครราชสีมา, ชัยภูมิ, บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ สคร.9 นครราชสีมา พบผู้ป่วยไข้เลือดออกตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-26 ก.ย. 2558 จำนวน 8,345 ราย เสียชีวิตแล้วจำนวน 8 ราย โดย จ.นครราชสีมามี ผู้ป่วยมากที่สุด จำนวน 3,923 ราย เสียชีวิตแล้ว 5 ราย รองลงมาเป็น จ.สุรินทร์ มีผู้ป่วยจำนวน 1,440 ราย มี ผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย, จ.บุรีรัมย์มีผู้ป่วยจำนวน 1,094 ราย เสียชีวิต 1 ราย และ จ.ชัยภูมิ มีผู้ป่วยจำนวน 1,888 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต

ทั้งนี้จากข้อมูลที่ผ่านมากลุ่มเสี่ยงจะมีอายุแรกเกิดถึง 5 ปี แต่ข้อมูลที่พบใหม่ปรากฏว่าพบผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอายุเพิ่มขึ้น ระหว่าง 15-24 ปี อยู่ในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะการดูแลสุขอนามัยเด็กเล็กดีขึ้น ขณะที่ผู้ใหญ่กลับมีพฤติกรรมดำเนินชีวิตเปลี่ยนไป ซึ่งจากการสำรวจ ทางวิชาการ ล่าสุดพบว่ายุงลายส่วนใหญ่มักจะออก หากินในช่วงเวลา 09.00-11.00 น. กับช่วงเวลา 15.00-16.00 น. ดังนั้นช่วงนี้จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงที่ชาวสวน ชาวไร่ และชาวนา มักจะนิยมออกไปทำงานในพื้นที่เสี่ยง จึงควรทายากันยุงเอาไว้ก่อน

นพ.ธีรวัฒน์ กล่าวอีกว่า การป้องกันโรคไข้เลือดออกที่ดีที่สุด คือการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย โดยเก็บกวาดบ้านให้สะอาด เก็บขยะ เศษภาชนะรอบๆ บ้าน จากการสำรวจพบว่าภาชนะเสี่ยงที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ได้แก่ น้ำใช้ในห้องน้ำ น้ำดื่ม ยางรถยนต์เก่า และจานรองขาตู้กันมด ดังนั้นขอให้ประชาชนช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในครัวเรือน คือ เก็บน้ำให้มิดชิด เก็บบ้านให้ปลอดโปร่ง และเก็บขยะเศษอาหารให้หมด เพื่อป้องกันลูกหลานจากโรคไข้เลือดออก