ฟันธงไม่พัง!ผอ.ชลประทาน8 ยัน”เขื่อนลำแชะ”โคราชปลอดภัย รอยแตกร้าวไม่กระทบ(ชมคลิป)
ผอ.ชลประทานที่ 8 ยันสัน “เขื่อนลำแชะ” โคราชแข็งแรง ปลอดภัย เผยรอยร้าวที่พบเล็กน้อยเหตุหมดอายุประกอบกับภัยแล้ง ระบุกก.ตรวจสอบความปลอดภัยเขื่อน กรมชล เข้าตรวจสอบแล้วเมื่อ 2 เดือนก่อนยืนยันความปลอดภัยไม่มีปัญหา เตือน ปปช.ไม่ต้องเป็นกังวลหรือตกใจ ล่าสุดรองบฯ รื้อทำถนนลาดยางบนสันเขื่อนใหม่ คาดได้รับในเดือนนี้
วันนี้ (15 มิ.ย.) นายชิตชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยว่า กรณีมีข่าวว่า สันเขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา แตกร้าวชาวบ้านหวาดผวาไม่มั่นใจความแข็งแรงของเขื่อนว่า จากรายงานของเจ้าหน้าที่ทราบว่าสันเขื่อนลำแชะมีรอยร้าวเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ตลอดแนวถนนบนสันเขื่อนยาว 2.4 กิโลเมตร เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว เนื่องจากผิวถนนที่ทำจากแอสฟัลติกคอนกรีต หมดอายุ ประกอบกับภัยแล้งปริมาณน้ำในเขื่อนเหลือน้อยและอากาศที่ร้อนแดดจัด ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ให้เกิดรอยร้าวขึ้นได้
แต่อย่างไรก็ตาม รอยร้าวดังกล่าว ไม่ใช่รอยแตกขนาดใหญ่ที่จะมีผลต่อความแข็งแรงของเขื่อน โดยคณะกรรมการตรวจสอบความปลอดภัยเขื่อนกรมชลประทาน ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบแล้ว เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ยืนยันความแข็งแรงไม่มีปัญหาโดยวัดจากความแข็งแรงของดินใต้สันเขื่อน
“ฉะนั้นประชาชนไม่ต้องเป็นกังวลหรือตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่มีผลต่อความแข็งแรงของเขื่อนแต่อย่างใด” นายชิตชนก กล่าว
ขณะนี้อยู่ระหว่างการของบประมาณในการซ่อมแซมถนนบนสันเขื่อนลำแชะ ดังกล่าว ซึ่งคาดว่าภายในเดือน มิ.ย.นี้ จะได้งบประมาณมาดำเนินการซ่อมแซมให้เรียบร้อย ซึ่งไม่ใช่การซ่อมเป็นจุด ๆ เฉพาะส่วนที่แตกร้าวเท่านั้น แต่ต้องรื้อถนนบนสันเขื่อนออกทั้งหมด เพื่อทำถนนลาดยางใหม่ทดแทนตลอดแนวระยะทางทั้ง 2.4 กิโลเมตร นายชิตชนก กล่าวในตอนท้าย
อนึ่ง เขื่อนลำแชะ เป็นเขื่อนดินปิดกั้นลำแซะ ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำมูลที่ ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา มีพื้นที่ลุ่มน้ำเหนือเขื่อน 601 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) ตัวเขื่อนก่อสร้างระหว่างปี 2533-2541 มีพื้นที่อ่าง 30 ตร.กม. ความยาว 2,400 ม. กว้าง 8 ม.ความสูง 29.50 ม.เป็นอ่างเก็บน้ำเพื่อการชลประทาน มีระดับน้ำที่กักเก็บได้รวม 278 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) สามารถส่งน้ำให้พื้นที่ชลประทานประมาณ 98,466 ไร่ และเป็นแหล่งน้ำดิบสำคัญแห่งหนึ่งในการส่งน้ำผลิตประปาให้กับเทศบาลนครนครราชสีมา ตามคำสั่งของศาลปกครองด้วย ปัจจุบันมีปริมาณน้ำกักเก็บเหลืออยู่เพียง 48.24 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 17.54 % ของขนาดความจุ เท่านั้น
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
- AIS จับมือ Apple ร่วมให้บริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้...
- กลับสู่อ้อมอกแม่! ระดมเจ้าหน้าที่ทับลาน ช่วยชีวิตลูกช้างตกบ่อโคลน 2 วันขึ้นมาอย่างทุลักทุเลแต่ปลอดภั...
- เอไอเอส จับมือ กสทช. ดูแลผู้พิการรอบด้าน ตอกย้ำดิจิทัลเป็นหัวใจการสร้างความเท่าเทียมแก่ทุกกลุ่ม...
- AIS จับมือ Gulf Binance จับเทรนด์สินทรัพย์ดิจิทัล มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า AIS รายเดือนเท่านั้นเปิด...
- ส่งล็อตแรก!่”กล้วยหอมทอง”โคราชส่งขายญี่ปุ่นแล้ว รมช.พาณิชย์สั่งทีมพาณิชย์เร่งดันส่งออกเพ...