เร่งช่วย! ผู้ว่าฯ โคราช เร่งหาทางช่วยเหลือผู้สูงอายุถูกเรียกเก็บคืนเบี้ยผู้สูงอายุสภาทนายความรับว่าความให้ฟรี
ผู้ว่าฯ โคราช เร่งหาแนวทางช่วยเหลือผู้สูงอายุถูกเรียกเก็บคืนเบี้ยผู้สูงอายุ ด้านสภาทนายความรับว่าความให้ฟรี เร่งประสานตัวแทนหรือญาติของผู้สูงอายุทั้ง 13 ราย เพื่อให้คำปรึกษาและจัดหาทนายความอาสาช่วยเเต็มที่
วันนี้ (27ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เทศบาลตำบลจอหอ เรียกเก็บเงินค่าเบี้ยยังชีพคืนย้อนหลังกับผู้สูงอายุจำนวน13ราย ตามคำสั่งของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ผู้สูงอายุเหล่านั้นได้รับเงินบำนาญพิเศษมาก่อนแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ทางเทศบาลตำบลจอหอ จึงได้มีหนังสือเรียกเก็บเงินคืนย้อนหลัง ทั้งเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย
โดยให้ผ่อนชำระรายเดือน ใน 3 เดือนแรก ในอัตราเงินที่สูง บางรายเดือนละ 18,000 บาท จากนั้นให้ผ่อนชำระในอัตราลดหย่อนลงมาจนครบ ซึ่งมีผู้สูงอายุ จำนวน 9 รายที่ยอมจ่ายเงินคืน ขณะที่อีก 4 ราย ปฏิเสธการจ่ายคืน เนื่องจากเป็นเงินจำนวนมากไม่มีเงินมาจ่ายคืน ทำให้ทางเทศบาลตำบลจอหอ ต้องส่งเรื่องฟ้องไปยังศาลแขวงนครราชสีมา เพื่อพิจารณาคดีทางแพ่งนั้น
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงแนวทางการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ถูกเรียกเงินคืนว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ทางท้องถิ่นจังหวัดเข้าไปตรวจสอบและเข้าไปดูแล ซึ่งเรื่องนี้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเองก็ถูกทวงจากหน่วยตรวจสอบ ส่วนเรื่องที่จะให้พี่น้องประชาชนผ่อนชำระคืนเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของประชาชนนั้น ได้ให้ทางท้องถิ่นจังหวัดฯเข้าไปเจรจาตรวจสอบดูว่าระเบียบข้อกฏหมายสามารถดำเนินการได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนตนก็รู้สึกสงสารและเห็นใจพี่น้องประชาชนผู้สูงอายุ ที่น่าจะไม่ทราบข้อกฎหมายที่ชัดเจนและรับเงินด้วยความบริสุทธิ์ใจ การรับเงินมาในแต่ละครั้งของผู้สูงอายุ เมื่อได้มาคงจะใช้เงินหมดไปกับชีวิตประจำวัน หากมีการเรียกคืนเป็นก้อนคงจะเกิดความลำบากกับประชาชน อาจจะต้องหาวิธีการช่วยเหลือผู้สูงอายุเหล่านั้น แต่ทั้งนี้ได้ให้ทางท้องถิ่นจังหวัดฯเข้าไปตรวจสอบจำนวนผู้สูงอายุทั้งหมด ทั้งจังหวัดมีมีจำนวนกี่ราย เป็นจำนวนเงินมากน้อยเพียงใด เพื่อช่วยเหลือ ชาวบ้านเองไม่น่าจะมีเจตนาที่จะโกงหรือทุจริตเงินของรัฐแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากระบบการเก็บข้อมูลที่คลาดเคลื่อนและน่าจะยังไม่ทันสมัยถึงให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตามอยากให้พี่น้องผู้สูงอายุสบายใจทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เร่งดูข้อกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ เพื่อเข้าไปให้ความช่วยเหลือทุกรายอย่างแน่นอน
ด้านนายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า สภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา ได้เตรียมยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีการถูกเรียกเงินค่าเบี้ยยังชีพคืนย้อนหลังทั้ง 13 รายแล้ว คดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวกับลาภที่ไม่ควรได้ ซึ่งกฎหมายเขียนไว้ว่าต้องคืนเงิน แต่หากเงินที่ได้มาใช้จนหมดแล้ว ก็ไม่ต้องคืน โดยกรณีเช่นนี้ศาลฎีกาก็เคยมีคำพิพากษามาแล้วว่าหากมีเงินจากลาภที่ไม่ควรได้เหลืออยู่ก็ให้คืน แต่หากใช้เงินหมดแล้วก็ไม่ต้องคืน
ดังนั้นจากกรณีที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุทั้ง 13 ราย ในพื้นที่ ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา ทางสภาทนายความพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือ โดยการหาทนายความอาสาเข้าไปช่วยว่าความให้ฟรี เพื่อไปสู้คดีในชั้นศาล วันนี้ (27 ม.ค. 64) จะประสานงานไปยังตัวแทนหรือญาติของผู้สูงอายุทั้ง 13 ราย เพื่อให้คำปรึกษาและจัดหาทนายความอาสาไปช่วยเหลือต่อไป
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
- AIS จับมือ Apple ร่วมให้บริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้...
- กลับสู่อ้อมอกแม่! ระดมเจ้าหน้าที่ทับลาน ช่วยชีวิตลูกช้างตกบ่อโคลน 2 วันขึ้นมาอย่างทุลักทุเลแต่ปลอดภั...
- เอไอเอส จับมือ กสทช. ดูแลผู้พิการรอบด้าน ตอกย้ำดิจิทัลเป็นหัวใจการสร้างความเท่าเทียมแก่ทุกกลุ่ม...
- AIS จับมือ Gulf Binance จับเทรนด์สินทรัพย์ดิจิทัล มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า AIS รายเดือนเท่านั้นเปิด...
- ส่งล็อตแรก!่”กล้วยหอมทอง”โคราชส่งขายญี่ปุ่นแล้ว รมช.พาณิชย์สั่งทีมพาณิชย์เร่งดันส่งออกเพ...