จนท.เข้าตรวจสอบซากฟอสซิลช้างโบราณหลายล้านปีในกรุพระดังครบุรี ประสานกรมทรัพฯ เก็บรักษาอย่างถูกต้อง(มีคลิป)
อำเภอครบุรี ตรวจสอบซากฟอสซิลช้างโบราณหลายล้านปี ในกรุพระดังหลังมรณภาพ ประสานกรมทรัพยากรณีวางแผนเก็บรักษาอย่างถูกต้อง
วันนี้( 5 ก.พ.63 )นายรัตนภูมินทร์ ชะม้ายกลาง ปลัดอำเภอครบุรี พร้อมด้วย นายพิชัย พิทยาพรพิพัฒน์ ผู้ใหญ่บ้านหนองโบสถ์ หมู่ที่ 8 ร่วมกันตรวจสอบตู้เซฟภายในที่พักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต ซึ่งตั้งอยู่ภายในบ้านหนองโบสถ์ หมู่ที่ 16 ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา หลังจากมีการค้นพบซากฟอสซิลช้างดึกดำบรรพ์ อายุหลายล้านปีจำนวนมาก อยู่ภายในตู้เซฟของ พระดำรง โชติมันโต พระผู้ดูแลสำนักสงฆ์ภูเทพถาวรนิมิต หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า พระอาจารย์บง ซึ่งได้ละสังขารไปเมื่อวันที่ 22 ม.ค.63 ด้วยโรคมะเร็ง และได้ทำพิธีฌาปนกิจเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อทำรายการจัดเก็บรักษาซากดึกดำบรรพ์เหล่านี้ให้อยู่อย่างปลอดภัย โดยขณะนี้ทางอำเภอครบุรี ได้ทำหนังสือรายงานเรื่องนี้ไปยังทางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้ประสานไปยังสำนักคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ กรมทรัพยากรธรณี เพื่อให้เข้ามาร่วมตรวจสอบ และวางแผนในการจัดเก็บอย่างถูกต้องต่อไป
นายรัตนภูมินทร์ ปลัดอำเภอครบุรี เปิดเผยว่า จากข้อมูลของทางกรมทรัพยากรธรณีวิทยา ทราบว่า พระดำรง โชติมันโต ได้ส่งเรื่องขอทำการตรวจสอบและครอบครองซากดึกดำบรรพ์ ไปยังทางกรมทรัพยากรธรณีจำนวนประมาณ 500 ชิ้น แต่จนถึงขณะนี้พบมีหลักฐานยืนยันผลการตรวจสอบและครอบครองซากดึกดำบรรพ์ที่อยู่ภายในที่พักสงฆ์แห่งนี้จำนวน 40 รายการ ซึ่งหลังจากนี้จะได้ส่งรายงานไปยังทางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้ประสานไปทางกรมทรัพยากรธรณีวิทยา ให้ส่งผู้เชี่ยวชาญลงมาตรวจสอบ พร้อมกับเจ้าหน้าที่อำเภอและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และวางแผนการเก็บรักษาอย่างถูกต้องต่อไป
สำหรับชิ้นส่วนซากดึกดำบรรพ์ที่พบดังกล่าวและมีหลักฐานยืนยันผลการตรวจสอบของกรมทรัพยากรธรณี มีทั้งสิ้นจำนวน 40 ชิ้น เป็นชิ้นส่วนช้างโบราณจำพวก สเตโกดอน ( Stegodon) และ กอมโฟทีเรียม (Gomphotherium) รวม 23 ชิ้น ส่วนที่เหลือเป็นชิ้นส่วนตะโขง เก้งและสัตว์กีบโบราณ ทางนายพิชัย พิทยาพรพิพัฒน์ ผู้ใหญ่บ้าน จึงรายงานเรื่องนี้ไปยังทางอำเภอครบุรีได้รับทราบและทำการปิดเซฟไว้ในสภาพเดิมเพื่อไม่ให้ซากดึกดำบรรพ์ดังกล่าวสูญหายไปก่อนที่จะมีการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ
นอกจากนี้จากการตรวจสอบภายในวัดยังพบวัตถุที่ลักษณะคล้ายงาช้างโบราณสีดำความยาวกว่า 2 เมตร อีก 3 คู่ โดยตั้งอยู่หน้าพระประธานภายในที่พักสงฆ์ 2 คู่ และวางอยู่ภายในบริเวณวัดอีก 1 คู่ แต่ไม่มีหลักฐานเอกสารใดๆที่ระบุถึงวัตถุคล้ายงาช้างทั้งหมด รวมถึงหินสีเขียวลักษณะคล้ายหินหยกอีกจำนวนหนึ่งด้วย
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
- AIS จับมือ Apple ร่วมให้บริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้...
- กลับสู่อ้อมอกแม่! ระดมเจ้าหน้าที่ทับลาน ช่วยชีวิตลูกช้างตกบ่อโคลน 2 วันขึ้นมาอย่างทุลักทุเลแต่ปลอดภั...
- เอไอเอส จับมือ กสทช. ดูแลผู้พิการรอบด้าน ตอกย้ำดิจิทัลเป็นหัวใจการสร้างความเท่าเทียมแก่ทุกกลุ่ม...
- AIS จับมือ Gulf Binance จับเทรนด์สินทรัพย์ดิจิทัล มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า AIS รายเดือนเท่านั้นเปิด...
- ส่งล็อตแรก!่”กล้วยหอมทอง”โคราชส่งขายญี่ปุ่นแล้ว รมช.พาณิชย์สั่งทีมพาณิชย์เร่งดันส่งออกเพ...