ชิงมอบตัวแล้ว! “ทหารเรือ” คนขับปาเจโรชนแล้วหนี ปฏิเสธไม่หลบหนีพร้อมชดใช้
“ทหารเรือ” คนขับปาเจโร กระแทกกระบะพลิกคว่ำหลายตลบ ข้ามร่องถนนไปชนกับเก๋ง สาหัส 3 ราย แล้วหนีกลายเป็นคลิปดังแชร์สนั่นโซเชียล ชิงมอบตัวตร.โคราชเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ให้การภาพเสธอ้างไม่ได้หลบหนี พร้อมขอโทษเหยื่อชี้เป็นอุบัติเหตุไม่เจตนา ยินดีรับผิดชอบค่าเสียหาย ส่วนคดีให้เป็นไปตาม กม.
วันนี้ ( 1 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้า กรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปวิดีโอเหตุรถยนต์ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ปาเจโร สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน วิ่งเสียหลักเบียดกระแทกรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมคซ์ หมายเลขทะเบียน ตม 9938 กรุงเทพฯ ทำให้เสียหลักพลิกคว่ำหลายตลบข้ามร่องกลางถนนไปชนกับรถเก๋งที่วิ่งสวนทางมา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย หลังเกิดเหตุชายคนขับรถยนต์ปาเจโร่ และหญิงสาวที่นั่งโดยสารมาด้วย ได้ลงจากรถไปดูเหตุการณ์ ก่อนรีบเดินกลับมาขึ้นรถขับหลบหนีไป เกิดเหตุเย็นวันที่ 31 ธ.ค. บนถนนราชสีมา-ปักธงชัย ฝั่งขาออก บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านไชยมงคล ต.ไชยมงคล อ.เมือง จ.นครราชสีมา
ต่อมา หญิงสาวเจ้าของรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร นำรถมาส่งมอบให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีพร้อมยอมรับว่า เป็นรถคู่กรณีจริง ส่วนคนขับรถเป็นญาติกันและพนักงานออกหมายเรียกให้เข้าพบ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 3 ก.พ. นี้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว นั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.25 น. วันนี้ ( 1 ก.พ.) ที่ สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จ่าเอกวสันต์ อังคุนันท์ อายุ 34 ปี ทหารสังกัดกองทัพเรือ คนขับรถยนต์ มิตซูบิชิ ปาเจโร คันก่อเหตุ พร้อมด้วยทนายความและญาติ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา กับ พ.ต.ท.พิชัย เชิดชู รองผู้กำกับการ (รองผกก.)การสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา หัวหน้าพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีดังกล่าว
โดย จ่าเอกวสันต์ ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ว่า เป็นผู้ขับรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร คันดังกล่าวจริง ในวันเกิดเหตุขับรถจะไปทำธุระ เมื่อรถวิ่งมาถึงจุดที่เกิดเหตุด้วยความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้เกิดฝนตกทำให้ถนนลื่นจึงไม่สามารถบังคับรถได้ ทำให้รถเสียหลักไปเบียดรถกระบะของคู่กรณีจนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ตามที่ปรากฏในคลิปวิดีโอที่มีแชร์กัน และหลังเกิดเหตุไม่ได้หลบหนี
“หลังเกิดเหตุยังลงจากรถไปดูคู่กรณีและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บด้วย ก่อนกลับมาขึ้นรถเพื่อขยับรถมาจอดทางเลนซ้าย โดยไม่ได้ตั้งใจจะหลบหนี เพียงแต่ดูเหตุการณ์แล้วไม่มีใครมาสอบถามอะไร จึงขับรถออกจากที่เกิดเหตุ โดยไม่ได้แจ้งใครว่า รถตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุ” จ่าเอกวสันต์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ต้องกราบขอโทษคู่กรณีที่เกิดเหตุดังกล่าว ทำให้หลายคนต้องได้รับบาดเจ็บ และเดือดร้อนแต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีเจตนาที่อยากจะให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นกับใคร แต่เมื่อมีเหตุเกิดแล้ว ยินดีรับผิดชอบค่าเสียหายทุกอย่าง ส่วนเรื่องคดีความขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้วจ่าเอกวสันต์ พร้อมทนายและญาติ ได้เดินทางกลับทันที โดยไม่ต้องประกันตัวเพราะเป็นเข้าพบพนักงานสอบสวนเองตามหมายเรียก
พ.ต.ท.พิชัย เชิดชู รองผกก. สภ.โพธิ์กลาง กล่าวว่า ส่วนในเรื่องของคดีความขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาดำเนินคดี 3 ข้อหาหนัก ประกอบด้วย ขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ขับรถเกิดอุบัติเหตุแล้วหลบหนีโดยไม่ให้การช่วยเหลือ และทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ ซึ่งผู้ต้องหาให้การภาคเสธว่า ไม่หลบหนี
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
- AIS จับมือ Apple ร่วมให้บริการ AIS Care+ with AppleCare Services รายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้...
- กลับสู่อ้อมอกแม่! ระดมเจ้าหน้าที่ทับลาน ช่วยชีวิตลูกช้างตกบ่อโคลน 2 วันขึ้นมาอย่างทุลักทุเลแต่ปลอดภั...
- เอไอเอส จับมือ กสทช. ดูแลผู้พิการรอบด้าน ตอกย้ำดิจิทัลเป็นหัวใจการสร้างความเท่าเทียมแก่ทุกกลุ่ม...
- AIS จับมือ Gulf Binance จับเทรนด์สินทรัพย์ดิจิทัล มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า AIS รายเดือนเท่านั้นเปิด...
- ส่งล็อตแรก!่”กล้วยหอมทอง”โคราชส่งขายญี่ปุ่นแล้ว รมช.พาณิชย์สั่งทีมพาณิชย์เร่งดันส่งออกเพ...