by

เด็กสาววัย 13 ปีหายไปในงานเทกระจาดมูลนิธิสว่างเมตตาธรรมสถานกลับบ้านสภาพคอช้ำ  ตร.สอบพบนัดเพื่อนชายวัยเดียวกันผ่านเฟซบุ๊กมารับ ก่อนกลับมาในสภาพคอเป็นจ้ำ ด้านเจ้าตัวยังไม่ให้รายละเอียด ตร.ส่งไปตรวจร่างกาย พร้อมเรียกเพื่อนชายวัยเดียวกันมาสอบ เบื้องต้นให้การปฏิเสธบอกแค่จูบไซ้ซอกคอเท่านั้นไม่ได้กระทำชำเราหญิง  ขณะที่ผู้กำกับฯ ระบุผู้เสียหายเป็นเยาวชน การสอบสวนต้องทำอย่างละมุนละม่อมและมีนักจิตวิทยาพร้อมอัยการและนักสังคมสงเคราะห์ร่วมสอบ

จากกรณีที่ เด็กหญิงเก๋ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี พลัดหลงจากญาติที่มารับแจกข้าวสารอาหารแห้งในงานเทกระจาดที่มูลนิธิสว่างเมตตานครราชสีมา เขตเทศบาลนครนครราชสีมา และหายตัวไปเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา จากนั้น นางจารุวรรณ  อายุ 41 ปี มารดา  ชาวตำบลโนนค่า อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา และมีการประกาศตามหาตัวเด็กสาวคนดังกล่าวผ่านทางโซเชียลต่างๆ นั้น

ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (25 ส.ค.)  ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองหญ้าขาว  อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ได้พร้อมลูกบ้านซึ่ง ด.ญ.เก๋ ไปพักอาศัยอยู่ ได้นำตัวมาส่งที่บ้านพัก  จากนั้นนายสุเทพ ณัฐกานต์กนก ประธานกู้ภัยสว่างเมตตานครราชสีมา ได้พานางจารุวรรณ และ เด็กหญิงเก๋ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ที่หายตัวไป เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา  โดยจากการสังเกตพบว่า ด.ญ.เก๋(นามสมมุติ) มีสภาพร่างกายที่อิดโรย  ไม่ค่อยพูดจา และมีรอยช้ำเป็นจ้ำ ๆ บริเวณที่ลำคอ

ทั้งนี้จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า ด.ญ.เก๋  (นามสมมติ) อายุ 13 ปี เดินทางไปกับเพื่อนชายที่รู้จักกันผ่านทางเฟซบุ๊กได้ประมาณ 1-2 เดือน โดยนัดหมายพบกันในงานเทกระจาดของมูลนิธิฯ ซึ่งเพื่อนชายเดินทางมาโดยรถยนต์กระบะกับญาติพี่น้องเพื่อมารับแจกข้าวสารอาหารแห้ง หลังพบกัน ด.ญ.เก๋ได้นั่งรถกระบะกลับไปบ้านกับเพื่อนชายที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งเพื่อนชายของ ด.ญ.เก๋ พักอาศัยอยู่กับปู่ เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน และในบ้านพักมีเด็กอยู่อีก 2 คนคือน้องชายและน้องสาวรวม 4 ชีวิต ตลอด 2 คืนที่หายไป ด.ญ.เก๋ก็นอนพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งห้องพักเป็นห้องโถงใหญ่นอนเรียงกัน และไม่ได้มีการกักขังหน่วงเหนียวหรือกระทำชำเราเกิดขึ้นแต่อย่างใด  กระทั่งญาติเจอข่าวผ่านสื่อมวลชนว่ามีการประกาศหาตัว ด.ญ.เก๋ จึงแจ้งให้ ผู้ใหญ่บ้านนำมาส่งที่บ้านดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ปฏิยุทธ สิงห์สมโรจน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่า ผู้เสียหายเป็นเยาวชน การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำด้วยความระมัดระวัง ละมุนละม่อม และต้องมีนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์รวมถึงอัยการเข้ามาร่วมสอบปากคำด้วย เบื้องต้นยังไม่ได้รายละเอียดอะไรมากนัก แต่ได้ส่งตัว ด.ญ.เก๋ (นามสมมติ) ไปตรวจร่างกายที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา แล้ว และจะเรียกมาสอบปากคำอีกครั้ง  โดยตนได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนนำตัวเพื่อนชายที่ ด.ญ.เก๋ (นามสมมติ) ระบุว่าไปด้วยอยู่กัน มาสอบปากคำซึ่ง เพื่อนชายดังกล่าวอายุประมาณ 13 ปีเท่ากัน เบื้องต้นปฏิเสธว่า ไม่ได้บังคับข่มขืนใจ ด.ญ.เก๋ (นามสมมติ) แต่อย่างใด เพียงแต่ ได้จูบและไซ้ที่ซอกคอเท่านั้น ไม่ได้ล่วงเกินแต่อย่างใด และไม่ได้ล่อลวง ด.ญ.เก๋ (นามสมมติ)แต่เป็นความเต็มใจ  แต่แม้จะเต็มใจก็ถือว่ามีความผิดเพราะเป็นเยาวชน แต่ผู้กระทำผิดก็เป็นเยาวชนเช่นกัน จึงอาจจะไม่ต้องรับโทษ ทั้งนี้ต้องรอผลการตรวจร่างกายจากทางแพทย์ประกอบอีกครั้งหนึ่งก่อน โดยตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย เนื่องจากยังเป็นเยาวชนทั้งคู่