29 April 2024


ปปง. ประสานจังหวัดปราบกลุ่มอิทธิพลนักการเมืองสวมรอยเก็บค่าเช่าที่ดิน 1,200 ไร่จากชาวบ้าน

Post on: Aug 3, 2015
เปิดอ่าน: 1,423 ครั้ง

01

ปปง.ประสานจังหวัดปราบกลุ่มอิทธิพลนักการเมืองสวมรอยเรียกเก็บค่าเช่าที่ดิน 1,200 ไร่ทั้งที่ถูกยึดตกเป็นของแผ่นดินแล้ว ในคดี บีบีซี ด้านชาวบ้านกว่า 60 ครอบครัวเดือดร้อนหนักนายทุนเรียกเก็บค่าช่วงล่วงหน้า 3 เดือนไปแล้ว แจ้งความตำรวจก็ไม่รับแจ้ง วอนจังหวัดและ ปปง.ช่วยเหลือ ขณะที่รอง ผวจ.สั่งกำนันผู้ใหญ่บ้าน กอ.รมน.ดูแลชาวบ้านให้ปลอดภัย

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 14 พ.ค.  2558 ที่ห้องประชุมอาเซียน ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายบุญยืน คำหงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และนายชาญชัย พงศ์ภัสสร ผู้อำนวยการกองคดี 3 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.(ส่วนกลาง) ร่วมกันเป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหาประชาชนถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลเรียกเก็บค่าเช่าที่โดยไม่ถูกต้องกว่า 1,200 ไร่ จำนวน 61 แปลง ในพื้นที่ ต.หินดาด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 2 บ้านหินลาด ต.หินดาด อ.ด่านขุนทด ฯ ที่ได้รับความเดือดร้อนกว่า 60 ครอบครัวประมาณเกือบ 100 คนเข้าร่วมรับฟังด้วย

02

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2558 ชาวบ้าน ต.หินดาด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา จำนวน 16 คนได้เดินทางไปสำนักงาน ปปง. เพื่อร้องเรียนกรณีมีผู้แอบอ้างเป็นตัวแทนเจ้าของบริษัทเอกชน เค วาย เอ็น พี จำกัด และมีความใกล้ชิดกับนักการเมือง (นายวิโรจน์ ครุฑขุนทด อดีต สอ.บจ.ด่านขุนทด และนางนันทวัลย์ ครุฑขุนทดภรรยา ซึ่งเป็นน้องชายและน้อยสะใภ้นายจำลอง ครุฑขุนทด อดีตนักการเมืองชื่อดัง) มาเรียกเก็บค่าเช่าที่ดินในอัตรา 1,500 บาทต่อไร่ต่อปี และเก็บล่วงหน้าเป็นระยะเวลา 3 ปีหากชาวบ้านไม่จ่ายเงินค่าเช่าก็จะไม่ได้ทำกินในที่ดินดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบของ ปปง.พบว่า กลุ่มชาวบ้านจำนวนดังกล่าวเดิมเป็นเจ้าของที่ดิน 61 แปลง มีเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 เนื้อที่ประมาณ 1,200 ไร่ แต่ได้ขายที่ดินทั้งหมดให้แก่บริษัท วาย เค เอ็น พี จำกัด เมื่อปี 2538 โดยมีข้อตกลงว่า บริษัทจะให้กลุ่มชาวบ้านเดิมทำกินในที่ดินดังกล่าว โดยการให้เช่า แต่ต่อมา ปปง.ได้ดำเนินการยืนคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดินในคดีผู้บริหารธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ จำกัด(มหาชน) หรือ บีบีซี. ซึ่งศาลแพ่งมีคำสั่งตามคดีหมายเลขแดงที่ ฟ.8/2557 เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2557 ให้ที่ดินทั้งหมดตกเป็นของแผ่นดิน และเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2557 สำนักงาน ปปง.ได้มีหนังสือส่งมอบที่ดินทั้ง 61 แปลงให้แก่กรมธนารักษ์ ไปเรียบร้อยแล้ว

03

นายชาญชัย กล่าวว่า เนื่องจากที่ดินดังกล่าว ปปง.ได้ส่งมอบให้กรมธนารักษ์แล้ว ดังนั้นแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินต้องให้กลุ่มชาวบ้านดำเนินการเช่าที่ดินทำกินจากกรมธนารักษ์ให้ถูกต้อง ส่วนปัญหาที่เกิดจากผู้มีอิทธิพลนั้น เชื่อมั่นว่าส่วนที่เกี่ยวข้องในวันนี้โดยเฉพาะจังหวัดฯ และฝ่ายความมั่นคง จะหาข้อสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งขั้นตอนของ ปปง.เสร็จสิ้นไปแล้วนอกจากจะมีเรื่องอื่น ๆเข้ามาที่เข้าข่ายมูลความผิดที่ ปปง. จะเข้าไปดำเนินการต่อ เช่นเรื่องการฉ้อโกงประชาชน เป็นต้น นายชาญชัยกล่าว

ด้านนายบุญยืน กล่าวว่า จากการพูดคุยปัญหาหลักคือความเดือดร้อนเบื้องต้นที่ควรจะแก้ไข ซึ่งชาวบ้านไม่ควรจะต้องไปจ่ายค่าเช่า ฉะนั้นควรจะงดการจ่ายเงินให้แก่ผู้ที่ไม่มีสิทธิ หากปฏิเสธไม่ได้หรือไม่กล้าที่จะขัดเช่นนั้นก็ให้ใช้กลไกของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านหรือกรรมการหมู่บ้านให้มาเป็นคนกลางหรือดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหานี้ ถ้ายังไม่สามารถแก้ปัญหาในระดับหมู่บ้านได้ก็ให้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับสถานีตำรวจในพื้นที่ ซึ่งทางจังหวัดได้กำชับไปยังตำรวจให้ความสนใจในการแก้ปัญหากรรโชกทรัพย์ หรือฉ้อโกงทรัพย์ เพราะมีกลุ่มนายทุนเรียกเก็บเงินล่วงหน้าไปก่อนแล้ว และได้มอบหมายให้ กอ.รมน.จังหวัด จัดกำลังไปดูแลความสงบเรียบร้อยอีกทางหนึ่ง ซึ่งทำให้ชาวบ้านเกิดความอบอุ่นและพึงพอใจ

04

ส่วนการดำเนินการของธนารักษ์ พื้นที่ฯ ขณะนี้อยู่ขึ้นตอนการติดประกาศที่ดินทั้ง 61 แปลงไว้ตามที่สาธารณะ บ้านกำนันผู้ใหญ่บ้าน ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมาเมื่อครบ 30 วันไม่มีผู้คัดค้าน กรมธนารักษ์จึงจะเข้าไปดำเนินการ และเข้าไปตรวจสอบที่ดิน โดยดำเนินการ 3 ขั้นตอนคือ โดย 1.นำที่ดินมาใช้ในราชการ 2.ขายทอดตลาด และ 3.จัดประโยชน์หรือจัดให้เช่า ถ้าแปลงใดศักยภาพดีอาจจะเป็นการพาณิชย์  หรือที่อยู่อาศัย และสุดท้ายเช่าเพื่อการเกษตรไร่ละ 25 บาทต่อไป คาดว่าเรื่องนี้จะมีความชัดเจนภายใน 1-2 เดือนนี้แน่นอน

ขณะที่นายคำแพง โมงขุนทด อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู 7 ต.หินดาด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ตนเองเป็นหนึ่งในผู้เดือดร้อน ตอนแรกไม่ยอมขายที่ดินให้นายทุน แต่เขาไปกว้านซื้อที่รอบ ๆ ไปหมดแล้วปิดทางเข้าทางออก ตนเองมีอยู่ 16 ไร่จึงจำเป็นต้องขาย ไปไร่ละประมาณ 10,000 บาท แต่ทางนายทุนซึ่งเป็นนักการเมืองให้เช่าเพื่อปลูกมันสำปะหลังต่อ ตนก็จ่ายค่าเช่ามาโดยตลอด แต่เมื่อทราบว่าที่ดินผืนดังกล่าวได้ถูกยึดมาเป็นของรัฐแล้วกลุ่มนายทุนพวกนี้ยังมาเรียกเก็บเงินล่วงหน้าอีก ถ้าไม่ให้ก็เอารถไถเข้ามาไถทำลายทรัพย์สินและให้คนอื่นเช่าต่อ แม้แต่ไปแจ้งความแล้วตำรวจก็ไม่รับแจ้ง อ้างว่าไม่ใช่ที่ดินของชาวบ้านวันนี้ชาวบ้านจึงไม่มีทางสู้มาร้องขอให้รัฐช่วยเหลือ