พรรคชาติพัฒนากล้า โชว์ขึ้นเวทีมวยต่อยกระสอบทรายแก้ไขปัญหาให้ประชาชน บวงสรวงอนุสรณ์น้าชาติ ขอความเป็นมงคลได้แชมป์ ส.ส.เที่ยวนี้ เผย”ทักษิณ”เล่าความในใจ ชูท่านพูดออกมาจากใจจริง “สุวัจน์”ชูวาระแห่งชาติแก้ฝุ่น PM2.5 จริงๆจังๆทุกส่วนต้องร่วมมือกัน วันนี้ (27 มี.ค.66) ที่พรรคชาติพัฒนากล้า ถ.มิตรภาพ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรชาติพัฒนากล้า ได้นำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ประกอบพิธีบวงสรวงสักการะอนุสรณ์สถาน พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ล่วงลับ และเป็นผู้ก่อตั้งพรรคชาติพัฒนา ก่อนจะร่วมกันเปิดตัวทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนครราชสีมาทั้ง 16 เขตเลือกตั้ง อาทิ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคฯ อดีต รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี และเป็นน้องชายของนายสุวัจน์ ลิแตพัลลภ , เขต 2 นายวัชรพล โตมรศักดิ์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา หลายสมัย, เขต 3 นายสมศักดิ์ กาญจนวัฒนา และเขต 4 นายสมบัติ กาญจนวัฒนา เป็นต้น รวมทั้งเปิดตัวบัญชีรายชื่อพรรคฯ อาทิ พ.อ.วินัย สมพงษ์ , นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรคฯ เป็นต้น โดยการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมาทั้ง 16 เขตเลือกตั้ง มีไฮไลท์อยู่ที่การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. โดยจัดเวทีมวยชั่วคราว พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครบนเวทีมวยชั่วคราว ที่ถูกนำไปวางตั้งไว้ที่บริเวณหน้าที่ทำการพรรค โดยมีนายสุวัน์ ลิปตพัลลภ เป็นโปรโมเตอร์มวย ซึ่งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนคนจะต้องเปิดตัวบนเวทีมวย และต้องสวมนวมชกกระสอบทราย เป็นการสื่อความหมายถึงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนต่างๆ ให้กับพี่น้องประชาชน เช่น ปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหนี้สิน ปัญหาสินค้าราคาแพง ปัญหาของเกษตรกร ปัญหาน้ำท่วม และปัญหาภัยแล้ง เป็นต้น
ต่อจากนั้นนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ พร้อมด้วยนายกรณ์ จาติกวณิช ไปเปิดขบวนแห่หาเสียง โดยมีขบวนรถช้อปเปร์นำ โดยว่าที่ผู้สมัตร ส.ส.ทั้ง 16 เขต นำโดยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ ขึ้นรถขยายเสียงแห่ไปตามถนนมุขมนตรี , ถนนจอมสุรางค์ยาตร , ถนนโพธิ์กลาง และในทั่วเมืองตระเวนปราศรัยหาเสียงในเรื่องนโยบายของพรรคฯให้กับพี่น้องประชาชนชาวโคราชก่อนไปกราบสักการะท้าวสุรนารีหรือคุณย่าโมที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี พร้อมวางพวงมาลัยดอกดาวเรือง ปิดแผ่นทอง ขอพรเพื่อความเป็นมงคล พร้อมทั้งได้เดินลอดซุ้มประตูชุมพลหรือประตูมืองนครราชสีมาในโอกาสครบ 555 ปีก่อนเดินทางไปสักการะองค์พระชัยเมืองนครราชสีมาที่ประตูทางเข้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อความเป็นสิริมงคลและประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า เปิดเผยถึงการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บนเวทีมวยในครั้งนี้ว่า เวทีมวยนี้เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ แต่ไม่ได้ต่อสู้กับศัตรู เพราะพรรคชาติพัฒนากล้าไม่มีศัตรู แต่ต้องการบอกกับพี่น้องประชาชนว่า ปัญหาของบ้านเมือง ปัญหาของคนโคราชมีอยู่ทั้งหมด 16 ปัญหา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 16 เขตจะขึ้นมาต่อสู้เพื่อเอาชนะปัญหาของประชาชน เวทีมวยแห่งนี้คือสัญลักษณ์ของการต่อสู้ให้กับพี่น้องประชาชนชาวโคราช เป็นสัญลักษณ์ของการนำเอายุคทองของพี่น้องประชาชนกลับคืนมา ซึ่งตอนนี้ก็ได้เวลาแล้วและวันที่ 3 เม.ย.นี้จะต้องไปสมัคร จากนั้นขั้นตอนต่อไปจะทำไพรมารี่โหวตภายในสัปดาห์นี้เพื่อให้ถูกต้องขอขอบคุณพี่น้องชาวโคราชที่มาร่วมให้กำลังใจรวมกว่า 2,000 คนและนำว่าที่ผู้สมัครได้แสดงตนต่อหน้าอนุสรณ์สถานพล.อ.ชาติชายฯ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมกล่าวคำปฏิญาณตนพร้อมกันเพื่อยึดอุดมการณ์และแนวคิดในการทำงานเพื่อรับใช้พี่น้องชาวโคราช โดยเฉพาะในการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคฯเรามีความมุ่งมั่นที่จะต้องได้ชัยชนะที่จ.นครราชสีมาที่ต้องทวงแชมป์คืน ต้องกลับมาเป็นแชมป์ที่โคราชให้ได้ เพื่อที่จะได้มาผลักดันโครงการที่สำคัญๆ ซึ่งได้ประกาศไปแล้วคือนโยบายโคราชโนมิก 5 ด้านในการเอาเศรษฐกิจยุคทองของคนโคราชกลับมาเหมือนที่น้าชาติได้เคยสร้างเอาไว้ ตอนนี้เรามั่นใจมากหลังจากที่ได้เปิดตัวนโยบายไปแล้วก็ได้ผลดีเพราะพี่น้องประชาชนจำติดปากกันแล้วว่าโคราชโนมิกก็คือการเอาเศรษฐกิจยุคทองของคนโคราชกลับมา นโยบายแปรสนามรบเป็นสนามการค้าภาคที่ 2 แต่มาในเวอร์ชั่นของภาคเศรษฐกิจและบวกกับนโยบายภาพรวมของทั้งประเทศของพรรคฯ เรื่อง งานดี มีเงิน ของไม่แพง ตนมั่นใจในการเลือกตั้งครั้งนี้เฉพาะที่ จ.นครราชสีมาพรรคฯต้องคัมแบ็คอย่างแน่นอน
ส่วนเรื่องวารแห่งชาติการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 จริงๆจังๆ ของพรรคชาติพัฒนากล้านั้น นายสุวัจน์ฯกล่าวว่า เรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่กรัทบต่อความเชื่อมั่น กระทบต่อการลงทุน กระทบต่อการท่องเที่ยว ตอนนี้ก็ไปกระทบต่อวิถีชีวิตในแต่ละครอบครัว ฉะนั้นเราก็คือว่าเรื่อง PM2.5 ถือว่าเป็นวาระแห่งชาติที่จะต้องร่วมมือกันแก้ไข ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาโลกร้อนด้วย ฉะนั้นวันนี้หลายๆโมเดลทางเศรษฐกิจเชื่อมโยงกันด้วยอันนี้ก็เป็นแนวทางของพรรคชาติพัฒนากล้าเราถึงเสนอเรื่องนโยบายการสร้างเศรษบกิจใหม่ที่มูลค่า 5 ล้านล้านบาทในส่วนนโยบายเฉดสี
“ วันนี้บรรยากาศเรื่องการเลือกตั้งก็คิดว่ามาได้ด้วยดี ตอนนี้ก็แบ้งเขตเลือกตั้งแล้ว กำหนดวันสมัคร กำหนดวันเลือกตั้งแล้วก็คิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ก็คงเป็นการเลือกตั้งที่ค่อนข้างที่จะเหมือนกับว่า ท้องฟ้าเปิด โล่งๆ ไม่มีความได้เปรียบ เสียเปรียบในเรื่องของกติกา ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี ก็ต้องขอบคุณทาง กกต.ด้วย จากนี้ไปก็เป็นเรื่องของการควบคุมในแง่โอเปเรชั่นแล้ว ในเรื่องของการปฏิบัติในภาคสนามแล้วว่าทำอย่างไรที่จะจัดการในเรื่องมันนี่โปลิติ๊ก หรือการซื้อเสียงหรืออะไรที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย “
ส่วนจ.นครราชสีมาเขต 1 เขต 2 เขต 3 เขต 4 ของพรรคชาติพันากล้าเป็นตัวเต็งและการกระตุ้นเขตอื่นๆนั้น ตนมั่นใจและเราเอาจริงทุกเขตทั้ง 16 เขตเที่ยวนี้ เอาจริงทุกเขต ถึงขึ้นเวทีมวย แต่ไม่ได้ไปหาเรื่องกับใคร เรามีแต่เพื่อน เราเปิดตัวด้วยมวย มวยคือการต่อสู้ แต่วันนี้ต่อสู้กับปัญหาของประเทศ วันนี้เรามีผู้สมัคร 16 คนเราก็เอาปัญหาของประเทศ 16 ข้อคือปัญหาที่เราต้องไฟส์ก็เลยต้องใช้เวทีมวยแล้วให้ผู้สมัครแต่ละคนต่อยกับปัญหา สู้กับปัญหา ฉะนั้นตนยืนยันได้เลยว่าพี่น้องประชาชนมั่นใจในพรรคชาติพัฒนากล้าในการเอาจริง เอาจังในเรื่องนโยบาย และทำงานกันจริงๆ ส่วนเขต 3 กับเขต 4 ส่งพี่น้องตระกูลกาญจนวัฒนาหน้าใหม่นั้น ตนค่อนข้างมั่นใจมากทั้งสองคนนี้ อาจจะลงสมัครครั้งแรก แต่คนโคราชรู้จักกันเป็นอย่างดีและเป็นครอบครัวนักพํมนา ครอบครัวที่อยู่กับพ่น้องประชาชน ปัญหาจริงๆ และจะได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนและจะเป็น ส.ส.ที่ดีเป็นหน้าเป็นตาให้กับเมืองโคราช ส่วนตั้งเป้าไว้อย่างน้อยที่จะกี่ที่นั่งนั้น ตนไม่ทราบจะได้กี่ที่นั่ง แต่พรรคชาติพัฒนากล้าต้องเป็นแชมป์ที่โคราช ส่วนเรื่องการมองการเมือง 2 ขั้วนั้นตนก็ไม่ทราบ คอท่าทีทางการเมืองของแต่ละพรรคก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรค แต่สำหรับพรรคชาติพัฒนากล้าเราก็ไม่ได้วางโลซีชั่นหรือวางตัวเองว่าเป็นขั้วการเมืองอะไร เราคิดว่าการเมืองวันนี้ต้องพยายามที่จะให้เกิดความร่วมมือ ลดความขัดแย้งให้มากที่สุด เพื่อให้เกิดความร่วมในการทำงานร่วมกัน ใครจะเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ความร่วมมือ การทำงานร่วมกัน เพื่อให้พลังทางการเมืองให้เกิดความรู้สึกว่าเราเลือกตั้งมาแล้วการเมืองมีเสถียรภาพ แก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้ ฉะนั้นพรรคฯตอนนี้ก็วางตนเองไว้ว่าวันนี้ให้น้ำหนักกับการเลือกตั้ง สนามเลือกตั้ง กับผลการเลือกตั้ง การตัดสินใจทางการเมืองอะไรที่เกี่ยวข้องจากนี้ไปก็คงขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง เราต้องเคารพเสียงประชาชน ผลการเลือกตั้งคือเสียงของประชาชน ส่วนขั้วการเมืองอะไรต่างๆตอนนี้เราไม่ได้ไปวางน้ำหนักอะไรที่ทางนั้น ส่วนการวิเคราะห์แลนไสลด์ 310 ที่นั่ง ตนคิดว่าก็การเมืองคำว่าอิมพอสสิเบิ้ลไม่มีในการเมือง อิมพอสสิเบิ้ลแลว่าเป็นไปไม่ได้ คำว่าเป็นไปไม่ได้ ไม่มีในการเมือง เพียงแต่ว่ายากหรือง่าย ตนก็ไม่ทราบก็อยากให้ทุกท่านได้ในสิ่งที่หวัง แต่ละพรรคก็อยากให้ทุกท่านหวังอะไร ได้อะไรก็ขอให้ได้ในสิ่งนั้น แต่ว่าเหนือสิ่งอื่นใดที่สุดตนหวังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะนำไปสู่การเมืองที่มีเสถียรภาพและแก้ไขปัญหาต่างๆให้พี่น้องประชาชนได้
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไรที่อีดนายก.ทักษิณฯจะกลับประเทศมา ยอมติดคุกเพื่ออยู่กับครอบครัว นายสุวัจน์ฯกล่าวว่า ตนว่าท่านก็คงจะพูดออกมาจากใจ เหมือนกับเปิดเผยความรู้สึก ความในใจว่าไปอยู่เมืองนอกมา 16 ปี และท่านก็คิดถึงเมืองไทย คิดถึงลูก คิดถึงหลานก้อยากจะใช้โอกาสช่วงสุดท้ายบั้นปลายชีวิตอยู่ที่เมืองไทยกับลูกกับหลาน โดยไม่เก่ยวข้องกับการเมืองที่จะต้องมาออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ท่านแต่อย่างใดก็เป็นความชัดเจนเป็นความในใจของท่าน ตนเองก็เคยทำงานกับท่าน และรู้จักกับท่านมานานแล้ว และก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาท่านตอนที่ท่านเป็นนทยกรัฐมนตรี ตนเป็นรองนายกฯ วิ่งหนึ่งที่ตนเห็นท่านก็คือ ท่านเป็นคนที่รักครอบครัว ฉะนั้นการตัดสินใจอะไรต่างๆของท่านก็อย่างที่ท่านได้พูดแล้วว่าบั้นปลายชีวิตก็อยากที่จะมาอยู่กับลูกกับหลานโดยไม่ต้องไปเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองในเรื่องของ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมก็เป็นความในใจที่ท่านได้เล่นให้พวกเราฟังผ่านการให้สัมภาษณ์ ส่วนแคนดิเดตนายกฯของพรรคฯเป๋นใครนั้นก็จากนี้ไปการทำไพรมารี่โหวตเรื่อง ส.ส.เขต และ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เสร็จแล้วก็จะมาตัดสินใจเรื่องใครจะเป็นแคนดิเดตนายกฯซึ่งเสนอได้ 3 คน ก๋ไม่มีปัญหาพรรคฯมีอยู่แล้ว ส่วนตนจะเป๋นหนึ่งในนั้นเดี๋ยวต้องหารือกัน แต่ตนก็เป็นส่วนหนึ่งของพรรค เพราะว่าตนเป็นประธานพรรค และคิดว่าเที่ยวนี้ก๋ต้องระดมสรรพกำลัง ระดมผู้มีปรัสบการณ์ ระดมความรู้ความสามารถเพราะบ้านเมืองวิกฤติจริงๆ ทุกคนต้องกลับมาช่วยชาติบ้านเมือง กลับมาช่วยพรรคฯ ส่วนการปฏิญาณตนต่อหน้าอนุสรณ์น้าชาติขออะไรบ้าง ตนก็บอกท่านในใจให้ท่านเป็นกำลังใจและบอกกับท่านว่าพวกเราจะสืบสานแนวคิด แนวทางการทำงานของท่าน เพื่อคนโคราช ขอให้ท่านเป็นกำลังใจให้พวกเราประสบความสำเร็จ ส่วนอยากได้ ส.ส.สมัยน้าชาติ ตนว่าถ้าได้อย่างนั้นยิ่งดีเลย เพราะว่าสมัยท่านชาติชายฯเป็นหัวหน้าพรรคตอนนั้นก็ 16 คนตอนนี้มีกระแสอยากให้นายกฯอยู่โคราช ตนจำได้ตอนนั้นพรรคชาติพัฒนาใช้คำว่า อยากให้นายกอยู่โคราช เลือกชาติพัฒนา ปรากฏว่าได้ 15 คนจาก 16 คนเลย วันนี้ถ้าได้อย่างนั้นก็ดีที่สุดเลย แต่ว่าจะได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับี่น้องประชาชน จะได้กี่คนไม่เป็นไรแต่ขอให้เราได้แชมป์ ได้กลับมาทำงานให้ชาวโคราช นายสุวัจน์ฯกล่าว