นักวิทย์ฯพัฒนาการปลูกฟ้าทะลายโจรด้วยแสงLED โตวัยกว่าแสงแดด 2 เท่าหวังช่วยเกษตรกรไทย
นักวิทยาศาสตร์ระบบลำเลียงแสงของ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน)กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ศึกษาการปลูกฟ้าทะลายโจรด้วยแสง LEDตั้งเป้าช่วยเกษตรกรปรับปรุงการปลูกเพื่อเพิ่มสารออกฤทธิ์ทางยาพร้อมใช้แสงซินโครตรอนวิเคราะห์ได้ผลการปลูกด้วยแสงสีแดงให้สารสำคัญมากกว่าการปลูกด้วยแสงแดดประมาณ2 เท่า
ดร.นิชาดา เจียรนัยกูร นักวิทยาศาสตร์ระบบลำเลียงแสงสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ร่วมกับคณะกรรมาธิการกระทรวง อว. ไปยัง อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เมื่อเดือนกันยายนปี พ.ศ.2564ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการส่งเสริมการปลูกฟ้าทะลายโจร และช่วงเวลาดังกล่าวมีการระบาดของโควิด-19จึงมีพยายามปรับปรุงการปลูกให้ฟ้าทะลายโจรผลิตสารสำคัญได้เพิ่มขึ้นเพื่อนำไปผลิตเป็นยาโดยฟ้าทะลายโจรมีสารแอนโดรกราโฟไลด์ ที่มีฤทธิ์ลดการอักเสบ ลดไข้ ลดอาการหวัด ไอ เจ็บคอ เกษตรกรในพื้นที่พยายามปรับปรุงการปลูกฟ้าทะลายโจรทั้งเรื่องดินและน้ำแต่ยังไม่มีใครทำเรื่องแสงซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งในการเจริญเติบโตของพืช เราจึงได้นำเสนอแก่คณะกรรมาธิการกระทรวง อว.เรื่องการทดลองใช้แสง LED ปลูกฟ้าทะลายโจรเนื่องจากสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนเคยมีงานวิจัยที่ทำการทดลองปลูกผักสลัดและพืชสมุนไพรด้วยหลอด LEDและได้ผลดีมาก โดยสามารถเพิ่มน้ำหนักของผักสลัดและได้สมุนไพรที่มีกลิ่นหอมมากกว่าการปลูกด้วยแสงธรรมดาเราจึงวิจัยว่าจะสามารถเพิ่มสารสำคัญให้ฟ้าทะลายโจรจากการปลูกด้วยหลอด LED หรือไม่” ดร.นิชาดากล่าว
จากการวิจัยที่พบว่าคลอโรฟิลด์ที่พืชใช้สังเคราะห์แสงจะดูดกลืนแสงสีแดงและสีน้ำเงินมากที่สุนักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนจึงนำมาเป็นหลักการปรับการให้แสงแก่ฟ้าทะลายโจรที่แตกต่างกันใน 3สภาวะ คือ ให้แสงสีน้ำเงินมากกว่าแสงสีแดง 2 เท่า ให้แสงสีน้ำเงินและแสงสีแดงเท่ากันและให้แสงสีแดงมากกว่าแสงสีน้ำเงิน 2 เท่า เพื่อดูว่าอัตราส่วนไหนที่จะสามารถสร้างเสริมการออกฤทธิ์สารสำคัญได้ผลการทดลองปลูกเป็นระยะเวลา 2-3 เดือน พบว่าหากให้แสงสีแดงเท่ากับแสงสีน้ำเงินหรือแสงสีแดงมากกว่าแสงสีน้ำเงินฟ้าทะลายโจรจะผลิตสารออกฤทธิ์สำคัญได้มากกว่าสภาวะการปลูกโดยใช้แสงธรรมชาติโดยส่วนที่ให้สารสำคัญมากที่สุดคือส่วนใบ
ทั้งนี้ นักวิจัยได้ใช้แสงซินโครตรอนย่านอินฟราเรดวิเคราะห์สารออกฤทธิ์ในฟ้าทะลายโจรซึ่งมีข้อดีตรงที่สามารถนำฟ้าทะลายโจรที่อบแห้งและบดเป็นผงแล้วมาวิเคราะห์หาสารสำคัญได้เลยโดยไม่ต้องใช้สารเคมีในการสกัดเอาสารสำคัญออกมาเหมือนวิเคราะห์ด้วยห้องปฏิบัติการทั่วไปซึ่งช่วยลดต้นทุนในการวิเคราะห์หาสารสำคัญ และลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก หลังจากนี้ ดร.นิชาดาจะศึกษาการให้แสง LEDเสริมแก่ฟ้าทะลายโจรในช่วงช่วงไม่มีแสงแดด เพื่อหาระยะเวลาการแสงเสริมที่เหมาะสมเพื่อให้พืชสร้างสารสำคัญได้และจะทดลองปรับวิธีการปลูกและการให้แสงที่สามารถลดต้นทุนแต่ได้สารสำคัญเพิ่มขึ้น เพื่อถ่ายทอดแก่เกษตรกรต่อไป
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
-
AIS เดินหน้าสร้างการเติบโตร่วมกันของคน เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ชูภารกิจคนไทยไร้ e-wasteผนึกกำลัง 3 อ...
-
ใส่ใจทุกมิติ วันสิ่งแวดล้อมโลก!ทรู-ดีแทค เปิดแนวทางรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ รอบเสาสัญญาณครอบคลุมทั...
-
ไหม้ครั้งใหญ่!ใต้ฟ้ายูนิเวิร์ส ร้านจำหน่ายไฟฟ้ารายใหญ่กลางเมืองโคราชสูญ 100ล....
-
สุดยอด!3 ผลงานร่วมวิจัยซินโครตรอน-ไลอ้อน คว้ารางวัลสิ่งประดิษฐ์จากเจนีวา...
-
AIS ย้ำผู้นำบทใหม่ตัวจริง สร้างเศรษฐกิจแบบร่วมกัน ECOSYSTEM ECONOMY พร้อมก้าวข้ามทุกขีดจำกัด...