by

เขื่อนลำแชะน้ำเหลือครึ่งอ่าง “ผู้เลี้ยงปลาในกระชัง” พร้อมใจลดการเลี้ยงปลากระชังก่อนเกิดปัญหาน้ำเน่า

วันที่ 11 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังภายในเขื่อนลำแชะ 1 ใน 4 เขื่อนหลักของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านมาบกราด  ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พร้อมใจกับลดการเลี้ยงปลากระชังของตัวเองลง ภายหลังจากที่ได้รับการขอความร่วมมือจากทางหน่วยงานราชการต่างๆที่เกี่ยวข้อง อาทิ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำแชะ สำนักงานประมงจังหวัดนครราชสีมา ฝ่ายปกครองอำเภอครบุรี เป็นต้น  ภายหลังจากที่สิ้นสุดฤดูฝนและกำลังย่างเข้าสู่ฤดูหนาว แต่ปริมาณน้ำภายในเขื่อนต่ำกว่าปีที่แล้วเกือบครึ่ง โดยปริมาณน้ำภายในเขื่อนลำแชะในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มีสูงถึง 257 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุกักเก็บทั้งหมดที่ 275 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 93.7 ของความจุ  ในขณะที่ปีนี้มีปริมาณน้ำภายในเขื่อนเหลืออยู่เพียง 150 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 53 ของความจุเท่านั้น อีกทั้งยังมีการคาดการณ์ว่าในปีหน้าจะเกิดปัญหาภัยแล้งยาวนานและรุนแรงจากภาวะเอลนีโญ่ หากเกษตรกรยังคงฝืนเลี้ยงปลากระชังเต็มพื้นที่ ซึ่งต้องมีการให้อาหารเม็ดและมีการเลี้ยงที่ค่อนข้างหนาแน่น ในส่วนนี้อาจจะทำให้เกิดมลภาวะจากอาหารเหลือและมูลปลา หรืออินทรีย์สารที่จะทำให้เกิดมลภาวะทำให้ส่งผลต่อคุณภาพของน้ำได้โดยเฉพาะน้ำในการอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็นต่อประชาชนในหลายพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมา

นางรำไพ ท้วมนิ่ม อายุ 53 ปี หนึ่งในเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังในเขื่อนลำแชะ บอกว่า  ทางเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังเองเข้าใจดีว่าในปีนี้ปริมาณน้ำภายในเขื่อนเหลืออยู่น้อย และมีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากฝืนเลี้ยงปลากระชังอย่างเต็มที่ก็อาจจะเกิดปัญหาต่อคุณภาพน้ำภายในเขื่อนได้ ประกอบกับมีความเสี่ยงในการเลี้ยงที่สูงขึ้น เพราะหากปริมาณน้ำน้อย ปลาก็จะเกิดโรคและป่วยตายได้ง่ายด้วย

ขณะเดียวกันทางสำนักงานประมงจังหวัดนครราชสีมา ก็ได้ลงพื้นที่ออกประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือกับเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง พร้อมทำการตรวจนับกระชังปลาของเกษตรกรที่ยังคงเลี้ยงอยู่ เบื้องต้นพบว่าเกษตรกรได้เริ่มลดการเลี้ยงปลากระชังลงจากเดิมที่มีอยู่ 2,100 กระชัง เหลืออยู่ประมาณ 1,500 กระชัง และยังคงยินดีจะหยุดการเลี้ยงปลากระชังเมื่อถึงช่วงที่สามารถจับปลาส่งจำหน่าย จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ