28 April 2024


กระหึ่มท้ายปี ! มอเตอร์โชว์โคราช จัดเต็มส่งโปรฯสุดพิเศษสิ้นปีรถไฟฟ้ายังเนื้อหอมคาดยอดขายแตะ 2,000 ล.

Post on: Dec 2, 2023
เปิดอ่าน: 372 ครั้ง

 

ชมรมผู้ค้ารถยนต์ใหม่จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับ เดอะมอลล์โคราช จับมือค่ายรถแบรนด์ชั้นนำ จัดงาน “THE NORTHEAST INTERNATIONAL MOTOR SHOW 2023 มอเตอร์โชว์โคราช ปีที่ 21 ครั้งที่ 32” ระหว่างวันที่ 2-10 ธ.ค.2566 ณ แกรนด์ฮอลล์ ชั้น 1, วาไรตี้ฮอลล์และ เอ็มซีซีฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช หวังกระตุ้นเศรษฐกิจท้ายปี ตั้งเป้ายอดขายแตะ 2,000 คันมูลค่าร่วม 2,000 บาท ชวนแวะชมงาน รถไฟฟ้ามาแรง ยอดจองทะลุ ด้านภาพรวมรถปีนี้ไม่โตเหตุเศรษฐกิจซบ

วันนี้ (2 ธ.ค.)  ที่ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 3 ศูนย์การค้าเดอะมอลล์นครราชสีมา นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานพิธีเปิดงาน “THE NORTHEAST INTERNATIONAL MOTOR SHOW 2023 มอเตอร์โชว์โคราช ปีที่ 21 ครั้งที่ 32” ระหว่างวันที่ 2-10 ธ.ค.2566   โดยมีนางเข็มทอง เรืองกฤตยา ประธานชมรมผู้ค้ารถยนต์ใหม่จังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับ และมีตัวแทนผู้ค้ารถยนต์ใหม่ ผู้สนับสนุนงานและประชาชนเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก ทั้งนี้ทางชมรมฯ ได้มอบเงินสนับสนุนเพื่อทำสาธารณะประโยชน์ รวมทั้งสิ้นกว่า 1.2 ล้านบาท

นางเข็มทอง เรืองกฤตยา ประธานชมรมผู้ค้ารถยนต์ใหม่จังหวัดนครราชสีมาและประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน ครั้งที่ 32” เปิดเผยว่า แนวคิดการจัดงานปีนี้คือ “มอเตอร์โชว์โคราช Promotion best of the year โปรดีที่สุดในรอบปี” ภายในงานมีการจัดแสดงรถยนต์จากค่ายรถยนต์ชื่อดัง  17 แบรนด์ โดยปีนี้ต้อนรับค่ายรถยนต์ Audi ที่นำรถยนต์มาโชว์ในงานนี้เป็นครั้งแรก! และยังมีรถจักรยานยนต์จากค่ายต่างๆ อีก 19 แบรนด์ ที่นำรถจักรยานยนต์มาร่วมแสดงในงานนี้ด้วย

ภายในงานมีการจัดแคมเปญเดียวกับกรุงเทพฯ  เพื่อกระต้อนเศรษฐกิจเมืองโคราชซึ่งเป็นจังหวัดใหญ่อันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ ให้มีความคึกคักส่งท้ายปี คาดว่างานนี้จะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมยานยนต์ในจังหวัดนครราชสีมาให้เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งคาดการณ์ยอดขายมากกว่า 1,800คัน คิดเป็นเงินหมุนเวียนภายในงานเกือบ 2,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ผู้มาร่วมงานยังสามารถเลือกซื้ออุปกรณ์ประดับยนต์ EXTRA GLOSS และสินเชื่อดอกเบี้ยดีที่สุดจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา ที่ร่วมออกบูธในงานนี้ด้วย เรียกได้ว่ามางานเดียว ครบ จบ ทุกแบรนด์แน่นอน และโปรโมชั่นสุดพิเศษในปีนี้คือ  เพียงจองรถภายในงาน มีสิทธิ์ลุ้นรับ Gift Voucher สำหรับซื้อสินค้าภายในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ จำนวน 35 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท และ ลุ้นบัตรเติมน้ำมัน 1,000 บาท , 500 บาท พร้อมของรางวัลอื่นๆอีกมากมาย

นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด กล่าวเสริมว่า “เดอะมอลล์โคราชได้ร่วมสนับสนุนการจัดงานนี้ในทุกมิติไม่ว่าจะเป็นพื้นที่การจัดงาน สื่อประชาสัมพันธ์ภายในห้างและสื่อออนไลน์ มูลค่ารวมกว่า 8 ล้านบาท อีกทั้งได้มอบข้อเสนอสุดพิเศษจัดเต็มทุกความคุ้มค่าเฉพาะงานนี้ให้กับลูกค้าคนสำคัญต่อที่ 1 สำหรับผู้จองรถภายในงาน ลุ้นรับ Gift Voucher มูลค่ารวมกว่า 300,000 บ. ต่อที่ 2 พิเศษ! สำหรับผู้ร่วมลงทะเบียนเข้าชมงาน รับสิทธิ์แลกซื้อคูปองอาหาร Food Hall 100 บ. รับมูลค่าเพิ่มอีก 100 บ.ฟรี/ท่าน/สิทธิ์/วัน (รับสิทธิ์ผ่าน MCard Application) รวม 9,000 สิทธิ์ มูลค่ารวมกว่า 900,000 บาท สำหรับงาน” THE NORTHEAST INTERNATIONAL MOTOR SHOW 2023 ปีที่ 21  ถือเป็นมหกรรมยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน ครั้งที่ 32 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-10 ธ.ค.2566 ณ แกรนด์ฮอลล์,หน้าธนาคารกรุงเทพฯ ชั้น 1, วาไรตี้ ฮอลล์, เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช

ด้านนายจิระศักดิ์  พันธ์สายเชื้อ ประธานกรรมการบริษัท เอกสหกรุ๊ป จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า  GWM เปิดเผยว่า  งานมอเตอร์โชว์ในปีนี้ เอกสหกรุ๊ปได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับค่ายรถที่บริษัทเป็นตัวแทน อาทิ  Mitsubishi   Mazda  Ford รวมถึง เกรท วอลล์(GWM) ที่เราเป็นตัวแทนจำหน่าย ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ภายใต้ชื่อบริษัทเอกสห จี มอร์เตอร์ จำกัด  ในปีนี้ประชาชนให้ความสนใจรถยนต์ไฟฟ้ามียอดจองเข้ามาอย่างต่อเนื่องทำให้ยอดขายดีมาก และมีแนวโน้มขายดีต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า ขณะนี้มีลูกค้าที่จองรถยนต์ไฟฟ้าเข้าไปจนไม่สามารถผลิตทันต่อความต้องการ ลูกค้ายังต้องรอการส่งมอบรถออกไปเป็นเดือน ยอดจองเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ  30-50 คัน   ทั้งนี้อาจเพราะรถไฟฟ้าตอบสนองความต้องการของคนใช้รถในยุคปัจจุบัน และประหยัดกว่าการใช้น้ำมันที่มีราคาแพงขึ้น สะดวกมากขึ้นเนื่องจากมีสถานีบริการชาร์จไฟฟ้าตามสถานีบริการน้ำมันที่เพิ่มมากขึ้น จึงไม่ต้องกังวลในการชาร์ตแบตเตอรี่อย่างไรก็ตามหากมองโดยภาพรวมตลาดรถยนต์ปีนี้ของจังหวัดนครราชสีมา ค่อนข้างซบเซา จากตัวเลขยอดขายรถยนต์ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดคาดว่าไม่น้อยกว่า 20% จากปีนี้ผ่านมา ทั้งนี้อาจมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา และความเชื่อมั่นของประชาชนที่ลดลงและไม่กล้าออกมาใช้เงินก็เป็นได้