29 April 2024


ปลูก “ดอกรัก” ดีต่อใจ อาชีพที่ไม่ควรมองข้ามสร้างรายได้งามให้คนในชุมชน

Post on: Jan 8, 2024
เปิดอ่าน: 324 ครั้ง

 

ปลูกต้น “ดอกรัก” ดีต่อใจ อาชีพที่ไม่ควรมองข้าม สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้คนในชุมชน

วันนี้ (8  ม.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นและแห้งแล้งในช่วงนี้ ส่งผลดีต่อต้นรักของเกษตรกรบ้านจระเข้หิน หมู่ที่ 1 ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เนื่องจากดอกรักที่ออกในช่วงนี้ จะมีคุณภาพดีดอกใหญ่สวยงามเป็นที่ต้องการของตลาด   ส่วนราคาของดอกรักในช่วงนี้นั้น ถือว่าราคาค่อนข้างสูงอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาท สร้างรายได้ให้แก่เกษตรเป็นอย่างดี

นายเชาว์ ฮวดกระโทก อายุ 62 ปี หนึ่งในเกษตรกรผู้ปลูกดอกรักส่งจำหน่าย บอกว่า ตัวเองใช้พื้นที่ข้างคอกวัว จำนวน 2 ไร่ ปลูกดอกรักส่งจำหน่ายมานานเกือบ 30 ปีแล้ว เนื่องจากเป็นพืชที่เติบโตดีในทุกพื้นที่ ดูแลง่ายใช้น้ำน้อยให้น้ำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง อายุยืนปลูกครั้งเดียวสามารถเก็บได้ไปอีกหลายสิบปี เพียงแค่ต้องดูแลตัดแต่งต้นเพื่อไม่ให้สูงเกินไปเท่านั้น  แต่ก็จะมีความยุ่งยากบ้างในขั้นตอนการเก็บที่ต้องระมัดระวังเรื่องของยางเป็นพิเศษ ห้ามไม่ให้ยางเข้าตาเด็ดขาด เพราะจะมีสารระคายเคือง รุนแรงอาจถึงขั้นตาบอดได้ ส่วนเรื่องโรคแมลงนั้นก็มีบ้าง อย่างเช่นแมลงดูดน้ำเลี้ยง อย่างเช่นจำพวกเพลี้ยต่างๆเป็นต้น แต่ก็ไม่มากนัก ส่วนการให้ผลผลิตนั้นต้นรักจะเริ่มให้ผลผลิตเมื่อปลูกไปได้ประมาณ 6 เดือน จากนั้นก็สามารถเก็บได้วันเว้นวันตลอดทั้งปี เพราะดอกรักจะเป็นดอกไม้ที่ร่วงหล่นเร็วหากเกิน 2 วัน ก็จะร่วงทันที เหมือนกับคำเปรียบเปรยที่ว่า “”รักง่ายหน่ายเร็ว โดยในช่วงฤดูแล้งดอกรักจะออกดอกดกและมีคุณภาพเป็นพิเศษ จะเว้นการออกดอกบ้างก็ในช่วงหน้าฝน เพราะต้นรักเป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำมาก

สำหรับผลผลิตของดอกรักนั้นจะให้ผลผลิตประมาณ 2 – 4 กิโลกรัมต่อไร่ สามารถเก็บได้วันเว้นวันส่งจำหน่ายได้กิโลกรัมละ 80 – 100 บาท ส่วนใหญ่ก็จะเป็นตลาดผลิตพวงมาลัยในตัวเมือง  ซึ่งที่บ้านจระเข้หินแห่งนี้จะมีการรวบกลุ่มกันเพื่อรวบรวมส่งขายเป็นรายสัปดาห์ จึงทำให้เกษตรกรมีรายได้จากการเก็บดอกรักขายสัปดาห์ละหลายพันบาทแล้วแต่พื้นที่ปลูก อีกทั้งยังได้สร้างงานให้กับผู้เฒ่าผู้แก่และผู้ว่างานเนื่องจากจะมีการว่าจ้างให้ช่วยเก็บถอดเปลือกดอก ในราคากิโลกรัมละ 15 บาท สร้างรายได้เสริมให้กับชุมชนได้อีกทางหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ปัจจุบันมีเกษตรกรผู้ปลูกดอกรักในพื้นที่บ้านจระเข้หินแห่งนี้ประมาณ 20 ราย พื้นที่การเพาะปลูกรวมกว่า 50 ไร่ ส่วนใหญ่จะใช้พื้นที่รอบบ้านเรือนหรือส่วนที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเช่นคันนาในการเพาะปลูก เพราะเป็นพืชที่ทนต่อสภาพภูมิอากาศที่แห้งแล้งได้ดี แต่ด้วยเรื่องของข้อระวังในการเก็บที่ต้องระมัดระวังยางที่มีสารระคายเคืองเป็นพิเศษจึงทำให้ทักวันนี้การปลูกดอกรักส่งขายจึงเริ่มลดน้อยลงทุกทีแล้ว